ประโยชน์ว่านหางจระเข้ ของเย็นมีมนต์
ประโยชน์ว่านหางจระเข้ ของเย็นมีมนต์
คนทั่วโลกรู้จัก “ว่านหางจระเข้” ในมุมของ “ยารักษาโรค” ว่ามันช่วยรักษาแผลไฟลวก ผิวหนังพอง ผิวถูกแดดเผา รักษาแผลทั่วไป และระงับความเจ็บปวด รวมทั้งช่วยรักษาโรคเรื้อนกวาง ถ้าใช้สม่ำเสมอจะลดการตกสะเก็ดและอาการคัน รวมทั้งช่วยให้แผลดูดีขึ้น และสามารถบรรเทาอาการโรคนอนไม่หลับ ปวดหัว ผมร่วง โรคเหงือกและฟัน โรคไต จนกระทั่งกระเพาะอาหารทำงานไม่ปกติ ท้องผูก ริดสีดวงทวาร รวมถึงช่วยบำรุงผิวหนัง รักษาผิวด่างดำ และอาการคันที่ผิวหนัง
แต่ปัจจุบันมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า ว่านหางจระเข้มีสารอยู่หลายตัวเลยทีเดียว คือ สารอะโลอิน สารอะโลไอโมติน อะโลติน มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรคและเชื้อรา ส่วนสารอะโลมิติน มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเนื้องอก และสารชนิดสุดท้ายคือ สารอะโลอูรซิน ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยสมานแผล และล่าสุดยังพบสารตัวใหม่คือ glycoprotein มีชื่อว่า Aloctin A ซึ่งสามารถช่วยรักษาโรคได้หลายโรค เช่น แก้อาการแพ้ รักษาไฟไหม้ และรักษาโรคผิวหนัง
ปัจจุบันเราใช้ว่านหางจระเข้ในส่วนยางในใบ น้ำวุ้น เนื้อวุ้นมากที่สุด ซึ่งสรรพคุณของยางในใบ จะใช้เป็นยาระบาย โดยนำใช้น้ำยางสีเหลืองมาระหว่างผิวนอกของใบกับตัววุ้นที่มีรสขม เพื่อให้คลื่นไส้ อาเจียน ส่วนน้ำวุ้นจากใบ เมื่อนำไปล้างด้วยน้ำสะอาด ฝานบางๆ ใช้รักษาแผลสดภายนอก น้ำร้อนลวก ไฟไหม้ ทำให้แผลเป็นจางลง ดับพิษร้อน ทาผิวป้องกันและรักษาอาการไหม้จากแสงแดด ทาผิวรักษาสิวฝ้า และขจัดรอยแผลเป็นได้
ส่วนเนื้อวุ้น สามารถใช้เหน็บทวารเพื่อรักษาริดสีดวงทวารได้ผลชะงัดนัก โดยภายหลังทำความสะอาดทวารหนักให้สะอาดและแห้ง เอาว่านหางจระเข้ปอกส่วนนอกของใบ แล้วเหลาให้ปลายแหลมเล็กน้อย เพื่อใช้เหน็บในช่องทวารหนัก ถ้าจะให้เหน็บง่าย ยิ่งถ้านำไปแช่ตู้เย็น หรือน้ำแข็งให้แข็ง จะทำให้สอดได้ง่ายขึ้น
หลายคนนิยมรับประทานว่านหางจระเข้ สามารถใช้แก้กระเพาะอาหาร ลำไส้อักเสบ โดยเอาใบมาปอกเปลือกออก เหลือแต่วุ้น และยังใช้แก้อาการปวดตามข้อ โดยการดื่มว่านหางจระเข้ทั้งน้ำ วุ้น หรืออาจจะใช้วิธีปอกส่วนนอกของใบออก เหลือแต่วุ้น นำไปแช่ตู้เย็นให้เย็นๆ จะช่วยให้รับประทานได้ง่ายขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ทั้งหมดนี้ยังเป็นความเชื่อ ซึ่งยังไม่ได้ทำการวิจัยอย่างจริงจัง
แต่ถึงจะมีข้อดีอย่างไร ก็ควรต้องระมัดระวังในการใช้ ถ้าจะใช้เป็นยาภายใน คือ เป็นยาถ่าย ห้ามใช้กับคนที่ตั้งครรภ์ กำลังมีประจำเดือน และคนที่เป็นริดสีดวงทวาร แต่ถ้าใช้เป็นยาภายนอก อาจมีคนแพ้อาจเพียงไม่ถึง 1% แต่เราสามารถทดสอบการแพ้ได้ด้วยการทาหรือปิดวุ้นลงบนผิวหนัง ถ้าผิวหนังแดงเป็นผื่นบางๆ บางครั้งเจ็บแสบหลังจากทายา 2-3 นาที ให้รีบล้างออกด้วยน้ำที่สะอาด และเลิกใช้
ว่านหางจระเข้ จะไม่ใช่ของไกลตัว ถ้าเรารู้จักประยุกต์นำมาปรุงเป็นเมนูอาหารแสนอร่อย… ลื่นๆ เย็นๆ เป็นประโยชน์นัก
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ