รักษาไข้เลือดออก แนวใหม่ใช้ใบมะละกอคั้นน้ำ
อัศจรรย์ !! ใบมะละกอ ของวิเศษมากคุณค่าที่ เดินข้ามไปข้ามมา..รักษาไข้เลือดออก แนวใหม่ใช้ใบมะละกอคั้นน้ำ
นพ.สมยศ กิตติมั่นคง หัวหน้ากลุ่มพัฒนาการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ ว่า มีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับการรักษาโรคไข้เลือดออกแนวใหม่
ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ โดยจากการศึกษาข้อมูลซึ่งไปเจอโดยบังเอิญ พบว่า สามารถใช้ใบมะละกอสดมาคั้นน้ำดื่มควบคู่กับการรักษาแผนปัจจุบัน จะทำให้เกล็ดเลือดของผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นได้ภายใน 24-48 ชม.ช่วยลดอัตราการตายลงได้ ยังงงว่าประเทศไทยไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ ทั้งที่ใบมะละกอบ้านเรามีเยอะแยะ อีกทั้งช่วงนี้มีคนเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกจำนวนมาก
นพ.สมยศ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวยังไม่เคยทดลองใช้ใบมะละกอกับผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก แต่มีงานวิจัยรองรับในหลายประเทศ มีการทดลองในคนไข้แล้วได้ผล เช่น ประเทศอินเดีย ปากีสถาน มาเลเซีย นอกจากนี้ยังมีการจดสิทธิบัตรน้ำใบมะละกอในต่างประเทศด้วย ไม่ได้ใช้เฉพาะผู้ป่วยเกล็ดเลือดต่ำจากไข้เลือดออกเพียงอย่างเดียว แต่ใช้ในกรณีอื่นด้วย
นพ.สมยศ กล่าวว่า ผู้ป่วยไข้เลือดออก เกล็ดเลือดจะต่ำลงเรื่อย ๆ เนื่องจากมีภาวะเลือดออก และอาจทำให้เสียชีวิตได้ แต่การดื่มน้ำใบมะละกอวันละ 30 ซีซี. ติดต่อกัน 3 วัน ระดับเกล็ดเลือดที่ต่ำจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น เมื่อถามว่า ได้นำเสนอให้ผู้ใหญ่และผู้เกี่ยวข้องในกระทรวงสาธารณสุขได้รับทราบหรือยัง นพ.สมยศ กล่าวว่า ยัง แต่ได้เผยแพร่ใน WWW.ล้างพิษตับ.com เฟซบุ้กส่วนตัว ใส่ชื่อตนและเบอร์โทรศัพท์พร้อมให้ข้อมูลเรื่องนี้เพราะมีการรวบรวมงานวิจัยในเรื่องนี้เอาไว้หลายแห่ง อย่างไรก็ตามเริ่มพูดคุยกับ รพ.บางแห่งแล้ว
“สำหรับขั้นตอนการรักษาโรคไข้เลือดออกด้วยใบมะละกอสด
คือ ใช้ใบมะละกอสดพันธุ์ใดก็ได้ประมาณ 50 กรัมจากต้นมะละกอ จากนั้นล้างให้สะอาด และทำการบดให้ละเอียด ไม่ต้องเติมน้ำ กรองเอากากออก ดื่มน้ำใบมะละกอสด แยกกาก วันละ ครึ่งแก้ว หรือ 30 ซีซี ติดต่อกัน 3 วัน วิธีนี้มีการวิจัยมาแล้วว่าไม่เป็นอันตราย”นพ.สมยศ กล่าว
นพ.สมยศ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าสารสำคัญตัวใดในใบมะละกอที่สามารถช่วยเพิ่มระดับเกล็ดเลือด รู้แต่ว่ากินแล้วได้ผล และทดลองในคนได้ผล ดังนั้นเมื่อกินแล้วไม่มีผลเสีย หรืออันตราย ถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษา เพราะปกติผู้ป่วยไข้เลือดออกก็รักษาไปตามอาการอยู่แล้ว ทั้งนี้ได้พูดคุยกับ รพ.บางแห่งแล้วให้ลองนำไปใช้ดู และได้แจ้งเรื่องนี้ให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและควบคุมโรคไปดูแล้ว
“ที่ออกมาพูดในเรื่องนี้ไม่ใช่ต้องการให้ผู้ป่วยไข้เลือดออกนอนดื่มน้ำใบมะละกออยู่บ้าน แล้วไม่ไป รพ. ดังนั้นผู้ป่วยต้องไป รพ. เพราะการวิจัยนี้ทำ รพ.ควบคู่กับการรักษาพยาบาลแผนปัจจุบัน เมื่อเจาะเลือดมาดูพบว่าระดับเกล็ดเลือดเพิ่มขึ้น โดยการวิจัยมีการเปรียบเทียบกัน 2 กลุ่มแล้วคือกลุ่มที่ควบคุมและไม่ควบคุมในการดื่มน้ำใบมะละกอ ”นพ.สมยศ กล่าว.
ใบมะละกอกับการรักษาโรค
ใบมะละกอ” เป็นน้ำที่สกัดจากใบของต้นมะละกอ และเราทุกคนตระหนักถึงประโยชน์ต่อสุขภาพของการกินมะละกอ แต่เมื่อเร็วๆนี้สารสกัดจากใบมะละกอได้รับความนิยมเนื่องจากการค้นพบคุณสมบัติของสมุนไพรและมันสามารถช่วยบรรเทาโรคร้ายแรง เช่น โรคไข้เลือดออก และโรคมะเร็งได้
ด้วยการเพิ่มขึ้นของการเกิดโรคไข้เลือดออก ได้มีความต้องการเพิ่มขึ้นสำหรับการรักษาด้วยน้ำใบมะละกอ ด้วยขั้นตอนที่ง่ายและราคาถูก จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ไม่เพียงแต่จะได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับอาการของโรคไข้เลือดออกได้ แต่ยังสามารถรักษาโรคได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติต้านโรคมะเร็งรวมทั้งมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้านอื่นๆ
วิธีทำน้ำใบมะละกอ
เนื่องจากว่าน้ำใบมะละกอมีรสชาติค่อนข้างขม เราสามารถผสมกับน้ำผลไม้อื่นๆเพื่อลดความขมได้ และขั้นตอนการทำน้ำใบมะละกอที่บ้านตามขั้นตอนดังนี้ ;
นำใบมะละกอขนาดต่างๆมาล้างให้สะอาด ปล่อยให้สะเด็ดน้ำ หั่นให้มีขนาดเล็กแล้วนำไปต้ม โดยใช้น้ำ 2 ลิตร
ต้มไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ต้องปิดฝาหม้อ จนน้ำลดลงเหลือครึ่งหม้อ
แล้วกรองเอากากออกจนเหลือแค่น้ำใบมะละกอ เก็บไว้ในตู้เย็นได้ 3-4 วัน แนะนำว่าควรจะดื่มเลยจะดีที่สุด
ไว้ควรดื่มหากเก็บไว้จนขึ้นฝ้าแล้ว
อีกวิธีหนึ่งคือ การคั้นน้ำใบมะละกอโดยการแยกกากออกจนเหลือแต่น้ำ
แม้ว่าน้ำของใบมะละกอจะมีประโยชน์อย่างมาก แต่ก็มีข้อห้ามสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้เกิดอาการแท้ง นอกจากนี้ก็ไม่ควรที่จะบริโภคร่วมกับยาเกี่ยวกับไทรอยด์และโค เอ็นไซด์ Q10
ประโยชน์ของน้ำใบมะละกอที่มีต่อสุขภาพ
ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ น้ำใบมะละกอ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาโรคไข้เลือดออก และมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่นๆดังนี้ ;
1. โรคไข้เลือดออกเป็นโรคร้ายแรงที่เกิดจากไวรัสไข้เลือดออก โดยยุงลาย โรคนี้อาจถึงแก่ชีวิตได้ตลอดเวลา อาการของโรค เช่น ไข้ขึ้นสูง ปวดศรีษะ ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง ปวดตามข้อ มีผื่นสีแดงบนร่างกาย ก่อให้เกิดอาการคัน และ ปริมาณของเกล็ดเลือดลดลง จนถึงขณะนี้ยังไม่มียาเฉพาะเจาะจงสำหรับโรคนี้ ยาแอสไพรินและไอบูโปรเฟน มีผลข้างเคียงในตัวมันเอง น้ำใบมะละกอเป็นวิธีรักษาตามธรรมชาติที่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และหลายกรณีศึกษาได้แสดงให้เห็นว่า น้ำใบมะละกอ มีเอนไซม์ ไชโมปาเปน และ ปาเปน ที่ช่วยเพิ่มเกล็ดเลือด หรือที่เรียกว่า เกล็ดเลือด และยังบรรเทาอาการของโรค บริษัทผลิตยาได้เตรียมการผลิตสารสกัดจากใบมะละกอ ในรูปแบบของแคปซูล และสูตรแบบเหลว สำหรับให้ได้ผลที่รวดเร็ว แพทย์แนะนำให้ดื่มน้ำใบมะละกอ 20-25มล.วันละสองครั้ง ใน 1อาทิตย์.
2. ใบมะละกอมีคุณสมบัติป้องกันโรคมาลาเรียได้เป็นอย่างดี ในบางประเทศใช้น้ำใบมะละกอในการป้องกันและรักษาโรคมาลาเรีย
3. คุณสมบัติต้านมะเร็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมะละกอมีความเข้มข้นในสารสกัดจากใบ ตามการวิจัยที่จัดทำโดยวารสาร enthnopharmacology พบว่าน้ำในใบมะละกอมีเอนไซม์บางอย่างที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านโรคมะเร็งได้อย่างน่าทึ่ง และเนื้องอกชนิดต่างๆ ที่มีผลต่อร่างกาย เช่น มะเร็งลำคอ มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ มะเร็งปอด และมะเร็งตับอ่อน ปราศจากสารพิษต่อร่างกาย, ในบางประเทศใช้น้ำใบมะระกอเป็นตัวทำเคมีบำบัด โดยการควบคุม ที-เซลล์ และสารสกัดจากใบมะละกอยังเพิ่มการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันโรคมะเร็ง.
4. ใบมะระกอมีสารอาหารที่สำคัญ เช่น วิตามิน A, B1, C และ E แคลอรี่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และน้ำใบมีเอนไซม์ ที่สำคัญเรียกว่า ปาเปน ที่ช่วยย่อยอาหารโดยการสลายโปรตีนธรรมชาติ
5. น้ำใบมะละกอ มี สารออกฤทธิ์มากว่า 50 ส่วนผสม รวมทั้งสาร karpain ที่ยับยั้งจุลินทรีย์ อาทิ เชื้อรา หนอนปรสิต แบคทีเรีย เช่นเดียวกันกับรูปแบบของเซลล์มะเร็ง มักจะใช้ยาสมุนไพรเพื่อขับพยาธิ เนื่องจากทีแทนนินที่ปกป้องลำไส้จากการติดเชื้อจากากรฟอกโปรตีนในเยื่อบุของผนังลำไส้ ด้วยวิธีนี้ พยาธิไม่สามารถแนบตัวเอง ดังนั้นจึงมีประสิทธิภาพในการยับยั้งสาเหตุของไข้ไทฟอยด์
6. อีกประโยชน์ที่น่าตื่นใจของน้ำใบมะละกอ คือความสามารถในการต่อสู้กับการติดเชื้อไวรัสไข้หวัด มันเป็นวิธีธรรมชาติในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือด ใบมะละกอมีมากกว่า 50 ส่วนผสมรวมถึงวิตามิน A,C และ E ที่เพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
7. ใบมะละกอสดต้มกับส้มสไลด์บางๆช่วยในการเผาผลาญไขมัน เพราะน้ำมะละกอเป็นตัวที่ช่วยลดได้ดีที่สุด
8. น้ำใบมะละกอมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ในกรณีนี้ ; ใบมะละกอ 1ใบ ,มะขาม และเกลือ ผสมเข้ากันกับน้ำ แล้วนำไปต้ม, แล้วดื่มหลังจากที่เย็นแล้ว เพื่อบรรเทาอาการปวด
ผิว – กับประโยชน์จากใบมะละกอ
ผลไม้มะละกอ มีประโยชน์อย่างมากกับผิว จะเห็นได้จากการนำไปพอกหน้า เพื่อช่วยให้ผิวสดใส เปล่งปลั่ง นอกจากผลแล้ว ใบมะละกอยังมีประโยชน์ต่อผิวเช่นกัน
9. น้ำใบมะละกออุดมไปด้วยวิตามิน A และ C เมื่อเทียบกับผลมะละกอ และช่วยส่งเสริมสุขภาพของผิว
10. น้ำใบมะละกอทำหน้าที่เหมือนการล้างผิว สามารถนำมาประกอบกับสาร karpain ที่ยับยั้งจุลินทรีย์และสารพิษอื่นๆ จึงทำให้คุณมีผิวที่สะอาด ปกป้องปัญหาผิวที่จะเกิดขึ้น เช่น สิว ฝ้า และกระเป็นต้น
11. น้ำใบมะละกอ มีประสิทธิภาพในการรักษาแผลเปื่อย กลาก เกลื้อน คุณสามารถ ทาที่มีอาการได้เลย
12 . นำใบมะละกอสด สามารถรักษาแผลและฝี
13. น้ำจากยางใบมะละกอ สามารถทาผิวหนังที่แข็งให้อ่อนนุ่มลง และทาหูดที่เท้าได้
ผม- กับประโยชน์จากใบมะละกอ
เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของวิตามิน เกลือแร่ และเอนไซม์ สารสกัดจากใบมะละกอ ใช้ทำแชมพูและครีมนวด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเส้นผมให้แข็งแรง เพิ่มเส้นผมสำหรับคนที่มีผมน้อย , ผมบาง และรังแค เป็นต้น น้ำใบมะละกอมีประโยชน์ต่อผมดังนี้;
14. น้ำใบมะละกอมักจะถูกใช้ในการทำสูตรการดูแลเส้นผม เช่น แชมพู และครีมนวดผม ทำให้เส้นผมแข็งแรง และครีมนวดผมยังผสมกับส่วนผสมอื่นๆ เช่น มะพร้าวและน้ำผึ้ง เพื่อเพิ่มเส้นผม ให้เงางาม และนุ่มขึ้น
15. สารสกัดจากใบมะละกอถูกนำมาใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นส่วนผสมในแชมพูขจัดรังแค หมายถึง การควบคุมและป้องกันสะเก็ดรังแค เพราะสารจาก Karpain มีประสิทธิภาพในการขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันรวมทั้งสารเคมีที่สร้างขึ้นมาจากผมโดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆทั้งสิ้น