กุยช่าย ผักเพิ่มเลือด

“กุยช่าย” มีสรรพคุณเพิ่มเลือดแบบไม่ต้องกินยา มันมีธาตุเหล็กช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง

พูดกันถึง “กุยช่าย” ไม้ล้มลุกพวกพืชใบเลี้ยงเดี่ยวสูงประมาณ 30-45 เซนติเมตร ที่มีเหง้าเล็กและแตกกอ ใบแบน เรียงสลับเส้นใบขนานไปตามความยาวของใบ โคนเป็นกาบบางซ้อนสลับกัน ช่อดอกแบบซี่ร่ม ก้านช่อดอกกลมตัน ดอกสีขาว กลิ่นหอม กุยช่ายหรือกูไฉ่ เป็นอาหารที่นิยมบริโภคกันมานานกว่า 3 พันปีตามประวัติศาสตร์จีน

ผักชนิดนี้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนและญี่ปุ่น สามารถนำมาประกอบเป็นอาหารหรือขนมได้หลายอย่าง รับประทานใบและดอกได้ทั้งดิบและสุก เช่น รับประทานสดๆ กับผัดไทย หรือเมนูผัด เช่น กุยช่ายผัดกับตับหมูก็ได้ ส่วนเมนูของทานเล่นที่คุ้นเคยกันดี อย่าง ขนมกุยช่าย นั่นไง

สารอาหารนานาชนิด

แต่เมื่อถามถึงคุณค่าทางโภชนาการแล้วล่ะก็ กุยช่าย หรือ ดอกไม้กวาด เป็นผักที่ถูกพูดถึงมากที่สุดสำหรับกลุ่มผู้ที่มีภาวะเม็ดเลือดแดงต่ำ มีอาการอ่อนเพลียง่าย มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งพบบ่อยในผู้ป่วยไข้เลือดออก มะเร็ง หรือผู้ที่อยู่ในระยะพักพื้นหลังเจ็บป่วย ผ่าตัด หรือคลอดบุตร

ดร.อุรุวรรณ แย้มบริสุทธิ์ นักวิจัยทางด้านโภชนาการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า กุยช่ายยังอุดมไปด้วย วิตามินเอ ที่ช่วยในการมองเห็น ซึ่งวิตามินเอเป็นส่วนประกอบของสารอาหารจอตา เซลล์เยื่อบุต่าง ๆ และสร้างภูมิคุ้มกันโรค

ที่สำคัญมันมีธาตุเหล็ก เป็นส่วนประกอบของฮีโมโกลบินในเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งจะทำหน้าที่นำออกซิเจนจากปอดไปเลี้ยงเซลล์ของร่างกายและช่วยขจัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกายทางลมหายใจออก

ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่ามีสารอาหารต่าง ๆ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่อร่างกายโดยเฉพาะคุณแม่ที่ต้องให้น้ำนมแก่ลูก เพราะมันอุดมไปด้วยเหล็ก ฟอสฟอรัสและแคลเซียม รวมทั้งมีสารต่อต้านปฏิชีวนะ ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคและมีฤทธิ์ร้อนช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย จึงเหมาะที่จะรับประทานในหน้าหนาว และหน้าฝนที่มีอากาศชื้น

กลิ่นของกุยช่ายจะมีกลิ่นฉุนของน้ำมันหอมระเหย คล้ายกลิ่นของพวกกระเทียม เนื่องจากมีสารประกอบพวกกำมะถัน จึงมักจะมีสรรพคุณช่วยทางด้านสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งสรรพคุณทางยาจีนเชื่อกันว่า จะช่วยรักษาอาการไร้สมรรถภาพทางเพศ ที่มีอาการหลั่งอสุจิเร็ว หลั่งอสุจิแบบไม่รู้ตัวได้โดยไม่ต้องพึ่งพายาแก้โรคหย่อนสมถรรภาพทางเพศที่นิยมใช้ในปัจจุบัน

สารพัดสรรพคุณ

นอกจากความอร่อยแล้ว กุยช่าย หรือที่คนอีสานรู้จักกันดีในชื่อว่า “ผักแป้น”นั้นยังมีสรรพคุณทางสมุนไพรในการรักษาโรค เช่น แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม และแก้ท้องผูก โดยใช้ใบสดตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำดื่ม หรือนำไปผัดรับประทาน เพราะกุยช่ายมีใยอาหารมาก จึงช่วยกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวได้ดี

แต่สำหรับคนที่ระบบย่อยไม่ดี ไม่ควรรับประทานเพราะกุยช่ายมีเส้นใยมากทำให้ย่อยยากเส้นใยจะกระตุ้นลำไส้ให้เคลื่อนไหวมากขึ้นทำให้ท้องเสีย

หากมีอาการฟกช้ำ ลองใช้ใบสดตำละเอียดพอกบริเวณที่เป็นสามารถบรรเทาปวดและแก้อาการห้อเลือดได้ รวมทั้งยังแก้อาการปัสสาวะกะปริบกะปรอยด้วยการใช้เมล็ดแห้งต้มรับประทาน นอกจากนี้ยังใช้รักษาโรคหูน้ำหนวก ด้วยการใช้น้ำที่คั้นได้จากใบสดทาในรูหู

เมื่อทราบประโยชน์ของกุยช่ายกันแล้ว ใครที่เคยกลัวกลิ่นฉุน ๆ ลองหันมาลองรับประทานกุยช่ายกันบ้าง เพื่อเลือดลมเดินสะดวก ช่วยต้านนานาโรค