ต้นกำเนิดของยาลดไขมันในกลุ่มที่เราชอบเรียกว่าสแตติน {Statin} มาจากต้นกำเนิด คือ ข้าวยีสต์แดง
เพราะโครงสร้างทางเคมีคล้ายกัน มีการใช้ในสมุนไพรจีนกว่า 1,000 ปีมาแล้ว
จนถึงปี คศ.1970 Dr. Akira Endo ค้นพบกลไกการออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างไขมันจากตับ ซึ่งเป็นกลไกเดียวกับยาสแตติน
ปัจจุบันข้าวยีสต์แดง ถูกนำมาผลิตเป็นอาหารเสริม ในการช่วยลดระดับไขมันในเลือด พบว่า จากการศึกษาที่มีการรวบรวมมากกว่า 93 การศึกษา ข้าวยีสต์แดง สามารถ
ลดระดับไขมัน LDL ได้ถึง 28 มก/ดล.
ลดระดับคอเลสเตอรอล ได้ถึง 35 มก/ดล.
ลดระดับไตรกรีเซอไรด์ ได้ถึง 36 มก/ดล.
และเพิ่มไขมันดี HDL ได้ถึง 6 มก/ดล.
โดยรับประทานวันละ 1,200 มิลลิกรัม
{ ต้องมีสารออกฤทธิ์ สำคัญ คือ Monacolin K อย่างน้อย 2.5 – 3.2 มก. ซึ่งเป็นจุดอ่อนของอาหารเสริมจากข้าวยีสต์แดงหลายๆแบรนด์ รวมถึงแบรนด์ในไทย ที่ให้สารออกออกฤทธิ์ไม่ถึงมาตรฐาน}
ฉะนั้น จากข้อมูลจะพบว่า ภาวะไขมันในเลือดสูง ทางเลือกที่จะไม่กินยา ก็มี ไม่จำเป็นต้องพึ่งพายาเสมอไป แต่ต้องได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องเหมาะสม และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานด้วยครับ
ภก.พงษ์ศักดิ์ สง่าศรี
ทุกๆ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 1 กิโลกรัม จะทำให้ระดับไขมันไตรกรีเซอไรด์เพิ่มขึ้น 1.04 % และจะลดลงไขมันชนิดดี HDL ลง 0.84 % และ
ทุกๆ น้ำหนักที่ลดลง 1 กิโลกรัม จะทำให้ระดับไขมันไตรกรีเซอไรด์ลดลง 0.77 % – 0.84 % และจะเพิ่มไขมันชนิดดี HDL ขึ้น 1 %
หรือจะให้เข้าใจง่ายๆ คือ
ลดน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ลดไขมันเลวลง 1 % เพิ่มไขมันดี 1% และ
เพิ่มน้ำหนัก 1 กิโลกรัม เพิ่มไขมันเลว 1 % ลดไขมันดี 1 %
หลายคนอาจจะมองว่า เพิ่ม หรือ ลดแค่ 1 % เอง แต่ผมจะบอกว่า ถ้า 1% ที่เพิ่มขึ้นนั้น ถึงขีดอันตราย คุณก็มีสิทธิ์ตายด้วยโรคหัวใจได้
และยิ่งถ้าเป็นหัวใจวาย คุณแทบจะไม่มีโอกาสมีชีวิตที่ 2 ได้เลย
ภก.พงษ์ศักดิ์ สง่าศรี
Facebook Comments