คนสมัยใหม่ป่วยเป็นโรคจากวิถีชีวิต เช่น โรคเบาหวาน
คนสมัยใหม่ป่วยเป็นโรคจากวิถีชีวิต เช่น โรคเบาหวาน
ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ในอัตราที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ##
.
ในสมัยก่อนผู้ป่วยโรคเรื้อรังเหล่านี้
มีการใช้สมุนไพรหลายชนิด ซึ่งมีใบของพืชตระกูลส้ม
โดยเฉพาะใบมะตูมรวมอยู่ด้วย
.
ปัจจุบันมีรายงานการศึกษาวิจัยพบว่า
สมุนไพรเก่าแก่ที่เป็นทั้งอาหารและยาอย่างมะตูม
มีแนวโน้มที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยเหล่านี้
.
โดยพบว่า สารสกัดใบผลเปลือกต้นของมะตูมช่วยลดน้ำตาลในเลือด
มีฤทธิ์ต้านเบาหวาน ลดไขมัน ต้านอนุมูลอิสระ
.
จากการศึกษาในหนูทดลองที่ถูกเลี้ยงดูให้อ้วนด้วยอาหารไขมันสูงพบว่า
สารสกัดใบมะตูมมีฤทธิ์ต้านการเกิดความอ้วน
โดยมีผลสลายไขมันในเซลล์ไขมัน ช่วยลดน้ำหนักตัว
ลดไขมันชนิดคอเลสเตอรอลไตรกลีเซอไรด์
และลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
.
ผลมะตูมยังอาจมีประโยชน์ต่อผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
เนื่องจากพบว่า มะตูมมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ขับโซเดียม
ซึ่งตรงกับที่หมอยาพื้นบ้านใช้ มะตูมรักษาอาการปัสสาวะกะปริดกะปรอย
.
ข้อค้นพบที่น่าสนใจคือ
สารสกัดจากใบมะตูมมีฤทธิ์ฟื้นฟูการทำงานของไต
จากความเสื่อมในระยะแรกจากเบาหวาน
โรคไตเป็นโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากเบาหวาน
มักพบในรายที่เป็นเบาหวานมายาวนาน
ส่วนในผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาล
ในเลือดได้ดี ก็จะพบโรคไตแทรกซ้อนได้เร็วขึ้น
ในปัจจุบันโรคไตยังไม่มียารักษาให้หายขาดได้
.
การทดลองนั่นคือ เมื่อปี 2556 มีการศึกษาไนอินเดียพบว่า
สารสกัดจากใบมะตูมมีปลลดความเสียหาย
และลดการอักเสบของเนื้อเยื่อ
ไตสารสกัดจากใบมะตูมช่วยทำให้เนื้อไตที่ผิดปกติ
เนื่องจากภาวะของเบาหวาน
สามารถกลับคืนสู่สภาวะใกล้เคียงปกติ
และยังช่วยในการฟื้นฟูตับอ่อนที่ถูกทำลาย
ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาก่อนหน้าที่พบว่า
สารสกัดจากใบมะตูมช่วยลดค่า
Creatinine ได้ ซึ่งแสดงถึงการทำงานของไตที่ดีขึ้น
.
ใบมะตูมจึงเป็นสมุนไพรที่น่าสนใจอย่างยิ่งในการนำมาประยุกต์
ใช้รักษาผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ลดไขมันในเลือด
และเป็นไปได้ว่า จะช่วยชะลอการเสื่อมของไตในผู้ป่วยเบาหวานได้ด้วย
.
ประโยชน์เหล่านี้หลายอย่างสอดคล้องกับการใช้ของหมอยาพื้นบ้าน
ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ทันที เมนูอาหารใบมะตูม ชาใบมะตูม
** จึงควรกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตยุคนี้ **