10 วิตามินและอาหารเสริมที่มีผลต่อระบบเลือด
วิตามินและอาหารเสริมเหล่านี้มีผลต่อระบบเลือด หมายถึง มีผลในทางการศึกษาวิจัยว่า ทำให้เลือดแข็งตัวช้า เกร็ดเลือดแข็งตัวช้า หรือ ให้เข้าใจง่ายๆ คือ อาจทำให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น ซึ่งควรระมัดระวัง หรือ ปรึกษาเภสัชกร ก่อนเลือกใช้ โดยเฉพาะผู้ที่รับประทานยาที่เกี่ยวกับระบบเลือด เช่น ยาแอสไพริน ยาวาฟาร์ริน เป็นต้น
1. วิตามินอี ซึ่งวิตามินอีทำให้เกร็ดเลือดและเลือดแข็งตัวช้าได้ มักเจอในขนาดที่รับประทานมากกว่าวันละ 800 IU ต่อวัน ถ้าขนาดน้อยกว่า 400 IU ต่อวัน มักไม่เจออาการต่อระบบเลือด
2. น้ำมันปลา หรือ Fish oil น้ำมันปลาทำให้เกร็ดเลือดแข็งตัวช้าลง
3. สารสกัดจากกระเทียม เพราะกระเทียมจะทำให้การแข็งตัวของเกร็ดเลือดช้าลง
4. น้ำมันอีฟนิ่ง พริมโรส จะทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง
5. น้ำมันโบราจ จะทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง
6. น้ำมันแบลคเคอเรน (ฺฺBlack currant oil) จะทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง
7. เรสเวอราทรอล จะทำให้เกร็ดเลือดแข็งตัวช้าลง
8. โพลิโคซานอล (Policosanol) จะทำให้เกร็ดเลือดแข็งตัวช้าลง
9. โสม จะทำให้เลือดแข้งตัวช้าลง
10. กลูโคซามีน จะทำให้เกร็ดเลือดแข็งตัวช้าลง
ซึ่งวิตามินและอาหารเสริม ทั้ง 10 ชนิดเป็นวิตามินและอาหารเสริม ที่มีการศึกษาพบว่ามีผลต่อระบบการแข็งตัวของเลือดและเกร็ดเลือด แต่ไม่ได้หมายถึงว่า กินแล้วจะส่งผลในทุกคนหรือทุกกรณีนะครับ เพียงแต่ต้องระวังเป็นพิเศษในกรณีที่จะซื้อ วิตามินหรืออาหารเสริมเหล่านี้ ให้กับญาติๆที่มีโรคทางระบบเลือดหรือทานยาป้องกันการแข้งตัวของเลือดอยู่นะครับ
ปล. ปรึกษาเภสัชกรทุกครั้ง ก่อนนะครับ เพราะ วิตามินและอาหารเสริม ไม่ได้ปลอดภัย 100 % และก็ไม่ได้อันตรายเสมอไป ขึ้นกับการเลือกใช้ให้เหมาะสมครับ
ภก.พงษ์ศักดิ์ สง่าศรี
ในบรรดาอุตสาหกรรมยา ยามะเร็ง ยาระบบหัวใจและหลอดเลือด เป็นกลุ่มยาที่ทำเงินมหาศาลให้กับบริษัทผู้ผลิต
และมองย้อนกลับมา นับเวลาเป็น 10 ปีแล้ว ที่การทำเงินจากยาเหล่านี้ สวนทางกับ การหายจากโรคดังกล่าวของผู้ป่วย
ภก.พงษ์ศักดิ์ สง่าศรี
Facebook Comments