“หมามุ่ย” กับโรคพาร์กินสัน

“หมามุ่ย” กับโรคพาร์กินสัน

“หมามุ่ย” กับโรคพาร์กินสัน

สมุนไพรสู้โรค | “หมามุ่ย” กับโรคพาร์กินสัน

โรคพาร์กินสัน เกิดจากความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง ที่ชื่อว่า โดปามีน ที่ทำหน้าที่ให้กระบวนการทำงานของระบบประสาทและสมองเป็นไปสมดุล ช่วยควบคุมกล้ามเนื้อมัดเล็ก อารมณ์ความรู้สึก ส่งเสริมระบบความจำและการเรียนรู้ โดยสาเหตุที่แน่ชัดยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด แต่มีปัจจัยจากความเสื่อมของเซลล์ประสาทบริเวณก้านสมอง จึงทำให้ผลิตโดปามีนได้ลดลง

ศาสตร์อายุรเวท เรียกโรคพาร์กินสัน ว่า “Bhasava rajyam” หรือ “Kampavata” Kampa หมายถึง อาการสั่น เคลื่อนไหวลำบาก มือสั่น เท้าสั่น และยังรวมถึงอาการซึมเศร้า นอนไม่หลับ หลงลืม โดยมีสมมุติฐานโรคว่าเกิดจากการทำงานของ “วาตะธาตุ” หรือ “ธาตุลม” ที่ไม่สมดุล (imbalance in the vata factor) “Kampavata”
”หมามุ่ย” เป็นสมุนไพรที่มีการใช้มานาน ในศาสตร์อายุรเวทของอินเดีย โดยมีการใช้รักษาโรคพาร์กินสันมามากกว่า 4,500 ปี และมีการระบุการใช้หมามุ่ยเป็นยารักษาโรคมาตั้งแต่ ก่อนคริสตศักราช 1500
ในปี 1973 เป็นจุดเริ่มต้นของการสกัดสาร L-Dopa จากเมล็ดหมามุ่ย ได้สำเร็จ ต่อมามีการศึกษาปริมาณสาร levodopa หรือ L-dopa ในเมล็ดหมามุ่ยที่มีตามธรรมชาติ พบปริมาณ 3.1-6.1% และอาจพบสูงถึง 12.5%
L-dopa เป็นสารตั้งต้นของสารสื่อประสาท ได้แก่ epinephrine, norepinephrine และ dopamine เมื่อ levodopa ผ่าน blood brain barrier เข้าไปในสมอง ระดับ dopamine ในสมองก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลต่อสมองหลายด้าน โดยเฉพาะด้านควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ในผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
ปัจจุบันสาร L-dopa จากเมล็ดหมามุ่ย ถูกนำมาใช้เป็นสารตั้งต้นสำหรับการผลิตยารักษาพาร์กินสันและเริ่มมีการศึกษาวิจัยใช้เมล็ดหมามุ่ยในสัตว์ทดลอง และในผู้ป่วยพาร์กินสัน ผลการศึกษาส่วนใหญ่เป็นไปในแนวทางที่ว่าเมล็ดหมามุ่ยมีประสิทธิภาพดีเทียบเท่า หรือดีกว่ายา L-dopa
🔸มีการศึกษา พบว่า การใช้สารสกัดผงเมล็ดหมามุ่ย 45 กรัมต่อวัน (เทียบเท่า L-dopa 1500 มิลลิกรัม) พบว่า อาการของโรคพาร์กินสันดีขึ้นภายในระยะเวลา 12-20 สัปดาห์
🔻ข้อดีของ L-dopa ในเมล็ดหมามุ่ย ต่อยาสังเคราะห์ Levodapa
▪️แอลโดปา ในเมล็ดหมามุ่ย มีความแรงในการออกฤทธิ์มากกว่ายาสังเคราะห์ 2-3 เท่า เมื่อเปรียบเทียบในขนาดเทียบเท่ากับ Levodapa เดี่ยว
▪️เมล็ดหมามุ่ยออกฤทธิ์ได้เร็วกว่า และมีระยะเวลาการออกฤทธิ์นานกว่ายา Levodopa/Carbidopa (Rapid onset of action and longer effect)
▪️เมล็ดหมามุ่ย สามารถใช้เป็นยาเดี่ยวในการรักษาโรพาร์กินสันได้ ในขณะที่ยา Levodopa ต้องมีการให้ยากลุ่ม Dopamine Decarboxylase Inhibitors ร่วมด้วยเสมอ เช่น Carbidopa เพื่อยับยั้งเอนไซม์ Dopamine Decarboxylase ที่จะทำลาย Levodopa อันจะทำให้การออกฤทธิ์ของ Levodopa ลดลง ทำให้ยาเข้าสู่สมองได้มากขึ้น
▪️มีการตั้งสมมุติฐานว่าในสารสกัดเมล็ดหมามุ่ยอาจมีสารสำคัญบางตัวที่ทำหน้าที่เหมือน Dopamine Decarboxylase Inhibitors
▪️เมล็ดหมามุ่ย ลดอาการยุกยิก ในผู้ป่วยพาร์กินสัน โดยมีรายงาน พบว่า เมล็ดหมามุ่ยไม่มีผลข้างเคียงทำให้เกิด Dyskinesias หรือ ที่เรียกว่า อาการยุกยิก ซึ่งอาการนี้พบมากจากการใช้ยา Levodopa มาระยะยาว หรือ เกิดการได้รับยา Levodopa เพิ่มขึ้นสูง
▪️เมล็ดหมามุ่ย มีฤทธิ์ปกป้องเซลล์สมอง (neuroprotective effect) รักษาการทำงานด้านการรู้คิด (cognitive) มีฤทธิ์จับกับโลหะหนัก ซึ่งช่วยปกป้องการถูกทำลายของ DNA ในเซลล์สมอง
▪️เมล็ดหมามุ่ยมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านความเครียดที่ส่งผลให้เซลล์สมองถูกทำลาย (ศึกษาในหนูทดลอง) โดยมีผลเพิ่มระดับกลูตาไทโอน ซึ่งจะมีปริมาณลดลงในหนูทดลองที่มีภาวะเครียด
▪️มีรายงานศึกษา พบว่า หมามุ่ยช่วยเพิ่มระดับสารสื่อประสาทจำพวกซีโรโทนิน ซึ่งเป็นผลดีในการรักษาอาการซึมเศร้า ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
งานการแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้มีการพัฒนายาตำรับหมามุ่ย และใช้เป็นทางเลือกในกลุ่มผู้ป่วยพาร์กินสัน พบว่า สามารถเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วย ลดอาการเกร็ง และควบคุมการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น โดยใช้เสริมร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบัน
นอกจากนี้ หมามุ่ย ยังมีประสบการณ์ใช้รักษาโรคหย่อนสมรรถภาพของเพศชาย โดยทำให้อวัยวะเพศแข็งตัว ช่วยเพิ่มปริมาณและการเคลื่อนไหวของอสุจิ และช่วยให้รู้สึกตื่นตัว แก้ปวดเมื่อย อ่อนล้า มีฤทธิ์คลายกังวล
🚫ข้อห้ามใช้ และข้อควรระวัง
• ควรระวังในการรับประทานร่วมกับยาในกลุ่มยาละลายลิ่มเลือด (Anticoagulant) และยาต้านการจับตัวของเกร็ดเลือด (Antiplatelet)
• ควรระวังการรับประทานร่วมกับยากลุ่ม Mono-amine oxidase inhibitor (MAOIs) ซึ่งเป็นยาต้านการซึมเศร้า เนื่องจากอาจเสริมฤทธิ์กัน
• ควรระวังการใช้ยากับผู้ป่วยโรคไต เนื่องจากหมามุ่ยมีผลต่อการทำงานของไต พบค่า urea และ creatinine เพิ่มขึ้น จากการใช้ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ โดยจะพบในหมามุ่ยดิบมากว่าหมามุ่ยปรุงสุก
• ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้พืชตระกูลถั่ว
• ห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจ เนื่องจากสารโดปามีนมีผลให้ความดันโลหิตลดลง และส่งผลให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
• ห้ามใช้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งผิวหนัง เนื่องจากสารแอลโดปาจะไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเมลานินมากขึ้น อาจทำให้อาการของโรคมะเร็งผิวหนังแย่ลง
⛔️อาการไม่พึงประสงค์ : หากมีอาการใจสั่น หัวใจเต้นแรง ปวดศีรษะ ให้หยุดรับประทานทันที
สำหรับการใช้หมามุ่ย เพื่อเสริมการรักษาโรคพาร์กินสัน ควรได้รับคำแนะนำหรืออยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ หรือเภสัชกร เนื่องจากสมุนไพรมีข้อควรระวังนะคะ
Cr. สถาบันการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร
📌 ติดตามอภัยภูเบศรได้ที่
FB : https://www.facebook.com/abhaiherb
IG : https://www.instagram.com/abhaiherb.official/
เว็บหลัก : http://www.abhaiherb.com
Line shop : https://lin.ee/53n7oUF
Line คลินิก : https://lin.ee/HGT0wkz
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCtYAMPNpxrb62S3h3agetOQ
TikTok : https://www.tiktok.com/@abhaiherb
Cr. ภาพ istockphoto
#สมุนไพรสู้โรค #หมามุ่ย #พาร์กินสัน #โรคสั่น #อภัยภูเบศร #สมุนไพรอภัยภูเบศร
SHARE NOW

Facebook Comments