ต่อไปนี้ให้กินพาราเซตามอล 500 มก. ครั้งละครึ่งเม็ดก็พอ โดยเฉพาะคนรูปร่างเล็ก จะได้ลดปริมาณสารพิษที่ทำร้ายตับ ไต.
พาราเซตามอล
ยาพิษประจำบ้าน
(Paracetamol Common Household Poisonous Medicine)
คนไทยเกือบทุกคน รู้จักพาราเซตามอล และเข้าใจว่าเป็นยาที่ใช้รักษาโรคได้ เพราะเวลามีไข้ กินแล้วไข้หาย พอมีไข้อีกก็กินอีก ก็หายอีก
จนเชื่อว่า เวลามีไข้ต้องกินยาพาราเซตามอล
จริงๆแล้ว พาราเซตามอล เป็นได้แค่ ”ยาบรรเทาอาการ” ไม่ได้ช่วยให้โรคหายได้
และยังเป็นยาที่มีอันตราย
แม้กินเพียงไม่กี่เม็ด ก็อาจเป็นพิษต่อตับและไตได้อย่างรุนแรง
ขนาดสูงสุดของ ยาพารา
เซตามอล ที่เคยยอมรับ คือขนาด 500 มิลลิกรัม
กินได้ 4-6 เม็ด (รวมทั้งหมดหลายๆมื้อ แล้วนะครับ ไม่ใช่ต่อครั้ง)
คนส่วนใหญ่กินครั้งละ 2 เม็ด และทุก 4-6 ชั่วโมง ทำให้มีโอกาสได้รับยาขนาดที่เป็นพิษได้สูง
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีรายงานต่อเนื่อง ถึงการทานยาพาราเซ
ตามอล ในขนาดที่เข้าใจกันว่าปลอดภัย
แต่ลงเอยด้วยผู้ป่วยเสียชีวิต
ส่งผลให้ องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ได้สั่งยกเลิก พาราเซตามอล ขนาด 500 มก. โดยให้ขายได้เพียงขนาด 325 มก. เท่านั้น
ส่วนยาที่แพทย์ใช้รักษาพิษของพาราเซตามอล มีชื่อว่า N-acetyl cysteine หรือ แนค (NAC)
ในไทย แนค (NAC) จดทะเบียนเป็นยาละลายเสมหะ ที่มีชื่อทางการค้าว่า Fluimucil, Naclong, หรือ Flemex AC OD
ขนาดที่ใช้คือ 600 มิลลิกรัม ต่อวัน
เนื่องจากเป็นยาที่แทบ
จะไม่มีผลข้างเคียง จึงสามารถกินต่อเนื่องได้ทุกวัน แม้ในคนที่ไม่มีเสมหะก็ตาม
หมอขอแนะนำ
“ให้คนทุกคนเลี่ยงจากการใช้ยาพาราเซตามอล โดยไม่จำเป็น”
ถ้ามีไข้ควรเลือก
”วิธีเช็ดตัว-ลดไข้”
หากจำเป็นต้องใช้ยาพารา ก็ควรกินแนค (NAC) ร่วมด้วย
เวลาที่คนไข้มาโรงพยาบาลด้วยปัญหาตับอักเสบ แพทย์ส่วนใหญ่ จะคิดถึงแต่โรคติดเชื้อ มักจะไม่ได้คิดว่าตับอักเสบอาจเป็นผลมาจากพาราเซตามอล
ยกตัวอย่าง คนที่เป็นโรคไข้เลือดออก จะมีไข้สูงตลอดวัน
การกินยาพาราเซตามอล ไข้ก็ลดลงไม่มาก สักพักไข้ก็กลับมาสูงอีก ทำให้คนไข้ต้องใช้ยาพาราเซตามอลอยู่เรื่อยๆ โดยไม่ได้ตระหนักว่า คนที่เป็นโรคไข้เลือดออก และตับมีการทำงานที่บกพร่องอยู่แล้ว การใช้ยาพาราเซตามอล แม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้เกิดภาวะตับอักเสบรุนแรงมากขึ้นถึงขั้นเสียชีวิตได้
มีผู้ป่วยอายุ 16 ปี รายหนึ่ง มาโรงพยาบาลด้วยโรคไข้เลือดออก มีระดับเอนไซม์ตับสูงมาก (SGPT > 4000) และอยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัว ญาติได้รับแจ้งว่าคงไม่รอดได้
หลังจากที่ผู้เขียนได้สั่งรักษาด้วย แนค (NAC) ขนาดสูง หยดทางหลอดเลือด
วันรุ่งขึ้น ระดับเอนไซม์ตับก็ลดลงเกือบ 10 เท่า เด็กเริ่มรู้สึกตัว และกลับบ้านได้ใน 3 วันต่อมา
ไม่เพียงแต่ พาราเซตามอล จะมีพิษต่อตับ แต่ยังมีพิษต่อไตอีกด้วย
ผู้เขียนมีคนไข้ที่มาด้วยปัญหาไตวายโดยไม่ทราบสาเหตุ พอซักประวัติก็ได้ทราบว่า คนไข้กินพาราเซตามอลวันละ 1-2 เม็ด เกือบทุกวัน
บางรายก็บอกว่า ปวดศีรษะ พอตรวจดูก็พบว่าเป็นความดันโลหิตสูง เมื่อได้ยาลดความดัน อาการปวดศีรษะก็หาย
มีอยู่รายหนึ่งที่กินพารา
เซตามอลทุกวัน เพราะกินแล้วไม่ปวด ไม่เมื่อย ทำงานได้ดี
เลยเข้าใจผิดว่ากินได้ทุกวัน ลงท้ายก็กลายเป็นโรคไตวายเรื้อรัง
…….
ขอย้ำว่า
พาราเซตามอล เป็นยาที่มีพิษ ไม่ควรคิดว่า จะกินเท่าไรก็ไม่มีอันตราย
หรือคิดว่าทุกครั้งที่เป็นไข้
ต้องกินยาพาราเซตามอล
ขอแนะนำว่าการเช็ดตัวลดไข้ จะปลอดภัยกว่าการใช้ยา
การกินยาพาราเซตามอลพร่ำ เพื่อ เพราะเข้าใจว่าช่วยให้หายจากโรค
“อาจส่งผลให้เราหาย
ไปจากโลกนี้ แทนได้”
ดร.นพ. พัฒนา เต็งอำนวย
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์โรคไต
Facebook Comments