ชวนดื่ม คอมบูชา (Kombucha)

ชวนดื่ม คอมบูชา (Kombucha)

ชวนดื่ม คอมบูชา (Kombucha)

คอมบูชา
ชวนดื่ม คอมบูชา (Kombucha)
เครื่องดื่มประโยชน์สุดปังจากจุลินทรีย์
ได้รับความนิยมมาสักพักแล้ว สำหรับ คอมบูชา (Kombucha) เพราะวิธีการเตรียมน่าตื่นเต้น แปลกใหม่ คล้าย ว่าเราจะได้จำลองตัวเองเป็นนักวิทยาศาสตร์กันเลย แถมประโยชน์ของคอมบูชายังโดนใจสายรักสุขภาพเต็ม ๆ Helena ก็เลยไม่ลืมที่จะหยิบเครื่องดื่มแสนมีประโยชน์ตัวนี้มาฝากสาว ๆ ของเรา
คอมบูชา
คอมบูชา (Kombucha) คืออะไร
คอมบูชา (Kombucha) หรือคอมบูฉะ คือ น้ำชาที่ถูกนำมาหมักจนได้รสเปรี้ยวซ่า อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ประวัติของเค้าก็ไม่ได้มาเล่น ๆ นะ คอมบูชา เป็นน้ำชาหมักที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี ย้อนกลับไปในสมัยของราชวงศ์ฉิน เค้าว่ากันว่า ‘จิ๋นซี ฮ่องเต้’ เป็นคนแรกที่ทำเครื่องดื่มชนิดนี้ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
สาว ๆ หลายคนอาจจะกำลังสงสัยอยู่ว่า ทำไม ‘คอมบูชา’ ชื่อญี่ปุ่นจ๋าขนาดนี้?
คอมบูชา
คอมบูชาของเรา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสาหร่ายคอมบุ (Kombu) สาหร่ายที่เอามาทำเป็นซุปของญี่ปุ่นหรอกนะคะ แต่เค้ามีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า คุณหมอชาวเกาหลีท่านหนึ่ง ได้ถวายคอมบูชาในการรักษาอาการประชวรของจักรพรรดิญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Inyoko และเมื่อตรวจสอบชื่อของคุณหมอในพงศาวดารญี่ปุ่น ก็พบชื่อ ‘Komu-ha’ หรือ ‘Kon Mu’ ชาวญี่ปุ่นเลยอาจจะเรียกชาตัวนี้ด้วยชื่อของคุณหมอ จนผิดเพี้ยนกลายมาเป็น คอมบูชา (Kombucha) ก็เป็นได้
คอมบูชา
ประโยชน์ของคอมบูชา (Kombucha)
ต้องบอกสาว ๆ ก่อนว่า ถ้าเห็นคอมบูชาในห้างสรรพสินค้าที่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์มา อย่าซื้อกลับบ้านเชียว! คอมบูชา จะต้องไม่ผ่านระบบการพาสเจอร์ไรซ์ (Pasteurization) กระบวนการถนอมอาหาร ที่ต้องใช้ความร้อนเพื่อทำลายเชื้อจุลินทรีย์ เพราะว่าประโยชน์ของคอมบูชาก็มาจากจุลินทรีย์เหล่านี้ ถ้าพาสเจอร์ไรซ์มา จุลินทรีย์ก็ตายเรียบ การดื่มคอมบูชาก็จะไร้ความหมายไปเลย เมื่อเข้าใจแล้ว เรามาเจาะประโยชน์ของคอมบูชากัน!
เติมจุลินทรีย์หรือแบคทีเรียกับยีสต์ที่ดี นั่นคือโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ให้ร่างกาย
คอมบูชาช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ทำให้ระบบนิเวศของจุลินทรีย์ในลำไส้เกิดความสมดุล การมีจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้มาก ยิ่งช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ดีขึ้น
มีกรดแลคติก (Lactic Acid) ช่วยในการย่อยอาหาร
มีกรดอะมิโน (Amino Acid) และกรดนิวคลีอิก (Nucleic Acid) ทำให้ คอมบูชา ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมเซลล์กับเนื้อเยื่อในร่างกาย
มีกรดกลูคูโรนิก (Glucuronic Acid) และสาร DSL (D-saccharic acid-1, 4-lactone) ช่วยส่งเสริมให้ตับขับสารพิษ และสารก่อมะเร็งได้
ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน เพราะ คอมบูชา มีสารแอนติออกซิแดนท์สูง ซึ่งจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ
คอมบูชาออกฤทธิ์กำจัดแบคทีเรีย มีกรดน้ำส้มหรือกรดอะซิติกเป็นส่วนประกอบหลัก มีคุณสมบัติช่วยกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ยับยั้งการติดเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงเชื้อแคนดิดาซึ่งเป็นยีสต์ชนิดหนึ่งที่เป็นอันตรายต่อคน
คอมบูชาอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่ช่วยป้องกัน หรือยับยั้งความเสียหายของเซลล์ที่เกิดขึ้นจากอนุมูลอิสระอย่างสารโพลีฟีนอล (Polyphenol)
คอมบูชา
โทษของคอมบูชา (Kombucha)
ขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แต่ถ้าเตรียมไม่ถูกวิธี หรือกินอย่างไม่ระมัดระวัง ก็อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้ Helena รวบรวมข้อควรระวัง และโทษของคอมบูชา มาให้สาว ๆ ได้พิจารณาก่อนที่จะเริ่มดื่มคอมบูชากันแล้วค่ะ
หากดื่มเป็นครั้งแรก ควรเริ่มจากการดื่มในปริมาณน้อย แล้วสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายก่อนจะดื่มต่อ
กระบวนการหมักที่ไม่สะอาด อาจทำให้คอมบูชาของเราปนเปื้อนเชื้อโรค
เลือกใช้ภาชนะสำหรับการหมักคอมบูชาที่เหมาะสม ไม่ควรใช้ภาชนะเหล็ก หรือเซรามิกเคลือบในการหมักคอมบูชา เพราะอาจทำปฏิกิริยากับกรด และปล่อยสารพิษออกมา แนะนำให้เลือกใช้โหลแก้วจะดีที่สุด ควบคู่ไปกับการใช้ผ้าขาวบางในการปิดฝา แทนฝาสแตนเลส หรือฝาพลาสติก
การดื่มชาคอมบูชามากเกินไป หรือดื่มคอมบูชาที่มีการผลิตที่ไม่ได้คุณภาพ อาจส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร หรือส่งผลต่อตับได้
คอมบูชาที่หมักเอง อาจมีรสชาติไม่สม่ำเสมอ ต้องดูแลระยะเวลาการหมักให้เหมาะสม เพราะเวลาหมักที่ไม่พอดีอาจทำให้คอมบูชาเปรี้ยวน้อยไป หรือเปรี้ยวมากเกินไป
การหมักคอมบูชาที่ไม่ได้ควบคุมคุณภาพให้ดี อาจทำให้มีจุลินทรีย์ที่ไม่ดีต่อร่างกายปนผสมอยู่ในคอมบูชาได้
คอมบูชา
สูตรหมักคอมบูชา (Kombucha) ที่ใครก็ทำตามได้!
คอมบูชา เป็นชาหมัก อันประกอบด้วยกระบวนการผลิตที่ต้องแบ่ง Batch ส่วนผสมเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนของหัวเชื้อจุลินทรีย์พันธุ์ดี ที่เราเรียกกันว่า ‘SCOBY’ (a Symbiotic Colony of Bacteria and Yeast) และส่วนผสมน้ำชา
ส่วนผสม SCOBY
ผลไม้เปรี้ยว 3 กิโลกรัม
น้ำตาล 1 กิโลกรัม
น้ำไม่เกิน 10 ลิตร
วิธีทำ SCOBY
ผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน นำไปหมักไว้ในที่ร่ม 1–2 เดือน จากนั้นกรองกากออกให้เหลือแต่น้ำ แล้วหมักต่ออีก 3–6 เดือน จะได้วุ้น SCOBY ที่คล้ายก้อนเห็ดลอยอยู่บนผิวน้ำหมัก
ส่วนผสมน้ำชา
น้ำชา 4 ลิตร กรองเอาใบชาออก จะใช้ชาดำ หรือชาเขียวก็ได้ ใช้ชาที่เบลนด์ผสมอย่างดีแค่ไหนก็ได้ตามใจชอบ
น้ำตาล 1 กิโลกรัม
วิธีทำน้ำชา
ต้มส่วนผสมทั้ง 2 อย่างเข้าด้วยกัน แล้วพักไว้ให้เย็นตัวลง จากนั้นนำก้อน SCOBY ที่ได้จากส่วนแรกตักมาใส่ในโหลที่เป็นส่วนผสมน้ำชา ไม่ต้องปิดฝาแน่น และอาจใช้ผ้าขาวบางปิดฝาเอาไว้เพื่อกันแสง และฝุ่น นำไปหมักไว้ในที่ร่มอย่างน้อย 7–21 วัน
คอมบูชา
เจ้า SCOBY จะกินน้ำตาล ผลที่ได้คือ ชาที่มีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู วิตามิน B เอนไซม์ จุลินทรีย์ และกรด คอมบูชาของเราจะมีรสหวานอมเปรี้ยว แต่ถ้าใครไม่ชอบเปรี้ยวมาก ก็อย่าหมักทิ้งไว้นาน เพราะน้ำตาลจะถูกกินไปเรื่อย ๆ นั่นเอง พอหมักจนได้ที่แล้ว สาว ๆ ถึงจะเริ่มนำมาดื่มได้ เมื่อใกล้หมดก็เพียงต้มน้ำชาใหม่ แล้วใส่หัวเชื้อกับน้ำชาอีกนิดหน่อยจากโหลเดิม ก็สามารถหมักต่อเพื่อนำไปดื่มได้เรื่อย ๆ
เราขอแนะนำให้สาว ๆ เลือกวัตถุดิบที่ปลอดสารเคมี และออร์แกนิคเข้าไว้ แม้แต่น้ำตาล อันเป็นส่วนหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญก็ควรเป็นน้ำตาลออร์แกนิค ไม่ขัดสี
นอกจากนี้ น้ำที่เหมาะสมสำหรับการทำคอมบูชา ควรจะใส สะอาด ปราศจากกลิ่น ไม่มีตะกอน และไม่มีคลอรีน กระซิบว่าน้ำแร่ก็ไม่เลวเลย แถมยังเพิ่มแร่ธาตุให้คอมบูชาของเราไปอีก
คอมบูชา
Tips: คอมบูชา (Kombucha) ดื่มอย่างไรให้เวิร์ก
เห็นประโยชน์แน่น ๆ แบบนี้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคอมบูชาจะเหมาะกับทุกเพศทุกวัยไปทั้งหมดนะคะ เรามาดูกันว่าคอมบูชา จะเหมาะใครบ้าง และ Helena ยังแปะทิปส์การดื่มคอมบูชาให้เวิร์กมาฝากสาว ๆ ด้วยแหละ
ควรทานก่อนหรือ หลังอาหารประมาณ 30 นาที โดยแบ่งทานครั้งละ 100-150 มิลลิลิตร วันละ 2-3 เวลา ช่วงเช้าและบ่าย หรือทาน
เมื่อรู้สึกมีอาการอ่อนเพลีย ก็หยิบมาดื่มได้เลย คอมบูชาเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ แต่มีกรดอินทรีย์ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์หลายชนิด จึงเป็นเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นและช่วยฟื้นฟูร่างกาย
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ สามารถดื่มได้ตามปกติ แต่เด็กที่อายุต่ำกว่า 4 ปี ไม่ควรดื่มคอมบูชา
คอมบูชา
คอมบูชาเป็น Keto Friendly สาว ๆ ที่กินคีโตอยู่ก็ทานได้ เพราะเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติที่มีปริมาณต่ำ และไม่มีไขมัน
ระยะเวลาในการดื่มคอมบูชาให้เกิดประโยชน์ จะแตกต่างกันตามสุขภาพของผู้ดื่ม สำหรับคนที่มีปัญหาในเรื่องระบบขับถ่าย หลังดื่มคอมบูชาไม่นาน จะทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ สำหรับใครที่ตรวจพบค่าการทำงานของตับเกินค่ามาตรฐาน การดื่มคอมบูชาอย่างสม่ำเสมอ ร่างกายจะค่อย ๆ ลดค่าการทำงานของตับจนใกล้เคียงค่าปกติ ซึ่งอาจใช้เวลาหลายเดือน
Helena อยากฝากเจ้าคอมบูชาไว้เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับสาว ๆ ที่รักสุขภาพ อาจเลือกเป็นเครื่องดื่มเพิ่มเติมหลังจากรับประทานอาหาร หลังออกกำลังกาย หรือเวลาที่รู้สึกไม่สบายตัวก็ได้ เพื่อให้คอมบูชา ที่เปรียบดั่งวิตามินเสริมจากธรรมชาติ เข้าไปดูแล และฟื้นฟูสมดุลของร่างกาย
ในปัจจุบัน มีงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับคอมบูชาที่มีต่อคนโดยตรงค่อนข้างจำกัด สาว ๆ จึงควรระมัดระวังในการดื่มคอมบูชาเสมอนะคะ
SHARE NOW

Facebook Comments