สูตรลดความอ้วน 14 สูตร
สูตรที่ 1 สูตรของ dr. atkin แบบ LOW CARB ที่ฮิตกันจ๊ะ
สุตร induction diet แบบ 14 วันนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งก็วีธิการจาก Dr.Atkin เท่านั้น ยังมีขั้นตอนของการ
รักษาน้ำหนักในระยะยาวเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
– วิธีนี้ ไม่ได้เน้นให้ผอมอย่างเดียว แต่เน้นเรื่องการกินอย่างถูกต้อง ซึ่งอาจเป็นวิธีการที่มีการหักดิบในช่วง
แรก และตอนท้ายก็คือ การกินตามธรรมดาที่เราสามารถทำได้ไม่ยาก
– สูตรนี้ เรียกว่า Low Carb ( คาร์โบไฮเดรทต่ำ ) ไม่ใช่ Low Fat ( ไขมันต่ำ ) อย่างที่เคย ฉะนั้นหากจะซื้อ
ของกิน ต้องดู ฉลากดี ๆ เพราะ Low Fat มักมีส่วนผสมของแป้งเยอะ
–ดื่มน้ำ เยอะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
–ออกกำลังกาย ( แข็งใจหน่อย ถ้าจะเริ่มก้าวแรกแล้ว ความสำเร็จก็จะเห็นรำไร )
–ชั่ง นน. และ วัดรอบตัวไว้ เพื่อดูความคืบหน้าของการเปลี่ยนแปลง
–อย่าขี้โกง กับตัวเองนะคะ ทั้ง 14 วัน กินอาหารที่แนะนำเท่านั้น จะมาขอสักมื้อ หรือ สักคำ ก็ไม่ได้ เพราะจะทำ
ให้การหักดิบนี้ไม่สำเร็จ อดทน อดทน และ อดทน ไม่ต้องมีข้อแก้ตัว โอ้ย มีงานเลี้ยง… โอ้ย น้ำท่วม… โอ้ย ฯลฯ
– อย่าปล่อยให้หิว ถึงเวลาก็กิน กินให้อิ่มไปเลย หรือจะแบ่ง มื้ออาหารจาก 3 เป็นมื้อเล็ก ๆ 5-6 ก็ได้
( ไม่ต้องอดมื้อเย็น กินเข้าไปเยอะ ๆ )
– เตรียมเมนูล่วงหน้าให้กับตัวเองเลย พรุ่งนี้และวันต่อ ๆ ไปต้องกินอะไรบ้างทั้งสามมื้อ แล้วลงมือเตรียมให้ครบ
– บอกใคร ๆ ว่าคุณกำลังลดความอ้วน ไม่ต้องปิดบัง บอกให้คนใกล้ตัวคุณด้วย ยิ่งคุณต้องเจอประเภท
” มื้อนี้ไม่เป็นไร ไปอดมื้อหน้า ” ” สวยแล้วไม่ต้องอดหรอก ” ให้ตั้งสติให้ดี แล้วบอกว่า ” ไม่ค่ะ ขอบคุณ “
ยืนยันให้มั่น เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด
– ไม่แนะนำสำหรับคนที่ไม่แข็งแรง / ผู้หญิงมีครรถ์ หรือเด็กต่ำกว่า 20 นะคะ
– กินวิตามินรวม ร่วมด้วยจะดีค่ะ
– ช่วง 2-3 วันแรก อาจมีอาการมึน ๆ นะคะ เพราะร่างกายกำลังปรับตัว ฉะนั้นสำหรับคนทำงานนอกบ้าน
หากเริ่มสูตรในวันเสาร์อาทิตย์ก็จะดี
– อาหารควรเป็นอาหารที่เตรียมเอง เพราะเราเลือกเองจะล้างได้สะอาดกว่า น้ำมันทอดที่ใหม่กว่า ใช้น้ำมันที่
ดีกว่าแต่หากไม่สะดวก ก็ให้ซื้ออาหารจากร้านหรือยี่ห้อที่ไว้ใจได้เท่านั้น
**อาหารที่ทานได้ตลอด 14 วัน**
• ไข่ไก่ ไข่นกกระทา
• เนื้อสัตว์ทุกประเภท แกะ หมู ไก่ เนื้อ ปลา ปู กุ้ง หอย ปลาหมึก ไส้กรอก เบคอน แคบหมู ขาหมูทอด
หมูหัน และ อื่น ๆ ไม่ว่าจะติดมัน หรือ ไม่ก็ตาม ย่าง นึ่ง ต้ม ทอด หรือปรุงด้วยอะไรก็ได้ ห้ามมีส่วนผสมของ
น้ำตาลเด็ดขาด
• Cheese Edam , Brie, Ricotta Cheddar, Swiss, Blue Cheese, Philadelphia Crè
me Cheese เป็นต้น
• น้ำมันทุกประเภท น้ำปลา น้ำส้มสายชู มะนาว และเครื่องปรุงอื่น ๆ ยกเว้นน้ำตาล หรือ เครื่องปรุงที่มีส่วน
ผสมของน้ำตาล
• ผักทานได้แต่ผักกาดแก้ว ผักสลัดใบเขียว และผักสีเขียวในปริมาณ 1 ถ้วย ( เวลาตวงไม่อัดแน่นนะคะ )
หรือ 170 กรัม หรือ 6 oz.
• อาหารทุกชนิดห้ามใช้ที่เขียนไว้ว่า Low Fat เนื่องจากอาหารไขมันต่ำทุกชนิดมักจะมีส่วนผสมของแป้งอยู่ทั้งสิ้น
• Evaporated Milk นมข้นจืดไม่ดัดแปลง ( คาร์เนชั่น ) หรือ whip cream
• อาหารที่กล่าวนี้ สามารถทานได้ไม่จำกัดทั้งมื้อและ ปริมาณ เมื่อไรก็ได้ เท่าไรก็ได้
**อาหารที่ต้องห้าม**
• นมดังต่อไปนี้ whole milk , skim milk, low fat milk, UHT, Pasteurize, น้ำเต้าหู้ เนื่องจากนมทั้งหลายนี้มีคาร์โบไฮเดรทสูง
• กาแฟ ให้พยายามเลี่ยง แต่หากต้องทาน ให้ใช้แบบ caffeine free เนื่องจากคาเฟอินอาจทำให้กระบวนการทางเคมีไม่ได้ผล
• ผลไม้ทุกประเภท ไม่ว่าจะมีรสหวานหรือไม่ก็ตาม ล้วนมีน้ำตาลทั้งสิ้น
• ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปังทุกอย่าง ข้าวเหนียว มันฝรั่ง เพราะล้วนเป็นคาร์โบไฮเดรต
• ขนมหวาน Cake, Cookie, Snack, Chip
• น้ำตาล หรืออาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสม รวมถึง Glucose, Fructose หรือ น้ำผึ้ง
• ผักบางอย่าง เช่น ข้าวโพดอ่อน มะเขือเทศ แครอท หรืออื่น ๆ ที่มีน้ำตาล หรือพืชผักที่ให้รสหวาน
• Sauce ที่มีรสหวาน หรือมีแป้งเป็นส่วนผสม เช่น น้ำจิ้มไก่ ซีอิ๊วหวาน ซอสมะเขือเทศ Gravy เป็นต้น
• Alcohols ทุกประเภท น้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำผลไม้ห้ามหมดเด็ดขาด
**ตัวอย่างรายการอาหาร**
เช้า ไข่ดาว ไข่คน cheddar cheese ,Omelet กับ เบคอน ไส้กรอก แฮม
กลางวัน ไก่ย่าง ขาหมูทอด สเต๊กเนื้อ ไข่เจียวหมูสับ ทอดมัน ( ทำจากเนื้อปลาล้วน ) ลาบ/ น้ำตก หมู หรือไก่
เย็น ปลาหมึกผัดไข่เค็ม หมูหัน ต้มยำกุ้ง ต้มข่าไก่
ของว่าง Philadelphia Crème Cheese ผสมกับน้ำตาลเทียม และมะนาว จนเป็นเนื้อเดียวกัน , แคบหมูกับน้ำพริกหนุ่ม
**ข้อควรระวัง**
1. หากท่านตัดสินใจลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ท่านต้องทำติดต่อกันเป็นเวลา 14 วันติดต่อกัน เพื่อให้ร่างกายได้
ปรับสมดุล
2. จะยกเลิกก่อนกำหนดหรือทำเพียงบางมื้อไม่ได้
3. จะมีส่วนผสมของน้ำตาลหรือแป้งรวมทั้งคาร์โบไฮเดรต ในรูปแบบอื่นในมื้ออาหารไม่ได้เลย ตลอด 14 วัน
ยกตัวอย่างเช่น หากทานไก่ย่าง ก็ไม่ทานข้าวเหนียว หรือส้มตำ หากทานไข่ดาวหมูแฮม จะทานกับขนมปังไม่ได้
รวมทั้ง ลูกชิ้น ปูอัด
4. หากน้ำหนักไม่ลดลงเลย แสดงว่าในบางมื้อท่านยังมีส่วนของน้ำตาลหรือกลุ่มอาหารคาร์โบไฮเดรต อยู่
ดังนั้น นอกจากจะลดน้ำหนักไม่ได้แล้ว เท่ากับท่านทำให้กระบวนการเผาผลาญรวน และร่างกายอาจจะ
ใช้กลับไปใช้น้ำตาลในการเผาผลาญเหมือนเดิม แสดงว่า โปรตีน และ ไขมันจำนวนมากที่ท่านบริโภคเข้าไปก่อน
หน้านี้ ไม่ได้ถูกใช้งาน ก็จะกลายเป็น Cholesterol ได้ในที่สุด
5. อย่ากลัวการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากกระบวนการเผาผลาญไขมันไม่ทำให้เกิด Cholesterol
ดังนั้น ท่านจึงไม่ต้องกังวลกับอาหารไขมันสูง แต่ให้ระวังอาหารที่มีน้ำตาลและแป้ง
6. ภายใน 48 ชั่วโมง บางท่านอาจมีอาการวิงเวียน เนื่องจากร่างกายยังหลั่ง Insulin อยู่ แต่หลังจากนั้น
อาการจะหายไป เนื่องจากร่างกายเข้าสู่ระบบ Ketosis คือการนำไขมันมาเป็นพลังงาน
7. ควรตรวจระดับ Ketone ในปัสสาวะหลัง 48 ชั่วโมง โดยซื้อ Ketone Strip มาตรวจ หากพบปัสสาวะมี
สีชมพู แปลว่าร่างกายได้เริ่มนำไขมันมาเผาผลาญแล้ว
8. หากทำตามนี้อย่างเคร่งครัด ท่านสามาถลดน้ำหนักได้ 1-1.5 กก. เป็นอย่างต่ำ สัดส่วน รอบเอว ต้นขา
หน้าท้องจะลดลง ( คนน้ำหนักมากจะมีโอกาสลดได้มากกว่าคนน้ำหนักปกติ )
9. หากได้ออกกำลังกายด้วยจะลดได้เร็วมากขึ้น กล้ามเนื้อแข็งแรง
10. ท่านสามาถทานวิตามินเสริมได้ เช่น Vitamin C 1000 Mg., B1-6-12, Chromium Picolinate
เป็นต้น ร่วมด้วยก็ได้
11. รับประทานอาหารแต่ละมื้อจนอิ่ม และอย่าทานหากไม่ได้รู้สึกหิว ถ้าหิวระหว่างมื้อก็ให้ทานประเภท
ไส้กรอก แฮม Salami หรือ Assorted Cheese เป็นต้น อย่าปล่อยให้ท้องว่าง
12. ควรหลีกเลี่ยง ไดเอทโค้ก หรือ ไดเอท เปปซี่ และน้ำตาลเทียมให้มาก ลูกอม ท๊อฟฟี่ ต้องงด
Dr. Atkins บอกไว้ว่า สิ่งที่อันตรายมากที่สุดสำหรับคนที่มี ปัญหากับ metabolism คือ แป้งและน้ำตาล
ยิ่งกินแป้งน้ำตาลมาก อัตราการเผาผลาญก็จะยิ่งช้า ทำให้อ้วนนะคะ ฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำก่อนคือ
” ทำให้ร่างกายเปลี่ยนจากการใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต มาเป็นใช้ไขมันแทน “
ข้อมูลจาก Dr. Atkin – The New Revolution Diet.
สูตร ที่ 2 13 วัน
จุดประสงค์เพื่อปรับปรุงการเผาผลาญอาหารของร่างกาย หลังจากครบ 13 วันแล้วจะรับประทานอาหารได้ตามปกติ น้ำหนักจะไม่ขึ้นมาอีก
วันที่ 1 มื้อเช้า กาแฟ 1 ถ้วยไม่ใส่น้ำตาล
มื้อกลางวัน ไข่ไก่ต้มแข็ง 1 ฟอง ผักโขม(หรือผักกวางตุ้ง) 1 กำต้ม มะเขือเทศ 1 ผล
มื้อเย็น สเต๊กไก่ 200 กรัม (ไก่ย่าง หรือไก่อบห่อกระดาษฟอยด์แทน) น้ำสลัดมะนาว (น้ำมันสลัดผสม
น้ำมะนาว) และผลไม้สด 1 ผล (แอปเปิ้ล)
วันที่ 2 มื้อเช้าเหมือนวันที่ 1
มื้อกลางวัน แฮมต้ม/อบ 2 ชิ้น โยเกิร์ตรสจืด 1ถ้วย ฝักสลัด (ผักกาดแก้ว ผักกาดหอม)
มื้อเย็น สเต๊กไก่ 200 กรัม ผักสลัด น้ำสลัดมะนาว ผลไม้สด 1 ผล
วันที่ 3 มื้อเช้า กาแฟ 1 ถ้วยใส่น้ำตาล 1 ก้อนและขนมปังปิ้ง 1 แผ่น (เป็นโฮลวีตยิ่งดี)
มื้อกลางวัน ไข่ต้ม 2 ฟอง แฮม 1ชิ้น ผักสลัด น้ำสลัดมะนาว
มื้อเย็น เซลเลอรี่ (คึ่นฉ่ายจีนแทน) ต้ม มะเขือเทศ 1 ผล ผลไม้ 1 ผล
วันที่ 4 มื้อเช้าเหมือนวันที่ 3
มื้อกลางวัน น้ำสัมคั้น (ส้มหรือแอปเปิ้ล) หรือผลไม้ โยเกิร์ตรสจืด 1 ถ้วย
มื้อเย็น ไข่ต้ม 1 ฟอง แครอทสด 1 หัว
วันที่ 5 มื้อเช้าแครอท 1 หัวใหญ่ราดน้ำมะนาว (หรือทานน้ำมะนาวใส่น้ำอุ่นแยกต่างหาก)
กลางวันปลากระพง200กรัมอบเนยสด 1 ก้อน น้ำมะนาว
มื้อเย็น สเต๊กไก่ 200 กรัม ผักสลัด เซลเลอรี่สด
วันที่ 6 มื้อเช้าเหมือนวันที่ 3-4
มื้อเที่ยง ไข่ต้ม 2 ฟอง แครอทสด 2 หัว
มื้อเย็น ไก่อบ/ย่าง 200 กรัม ผักสลัด น้ำสลัดมะนาว
วันที่ 7 ชา 1ถ้วยไม่ใส่น้ำตาล
มื้อกลางวัน ดื่มน้ำเปล่าอย่างเดียว
มื้อเย็น บาบีคิวหมู 200 กรัม ผลไม้ 1 ผล (แอปเปิ้ล)
วันที่ 8 เหมือนวันที่ 1
วันที่ 9 เหมือนวันที่ 2
วันที่ 10 เหมือนวันที่ 3
วันที่ 11 เหมือนวันที่ 4
วันที่ 12 เหมือนวันที่ 5
วันที่ 13 มื้อเช้า กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย ขนมปังปิ้งแห้ง 1 แผ่น
มื้อเที่ยงไข่ต้ม 2 ฟอง แครอทสด 2 หัว
มื้อเย็น ไก่ 250 กรัม ผักสลัด น้ำสลัดมะนาว………
** งดแอลกอฮอล์ เครื่องดื่ม ท๊อฟฟี่ ของหวานทุกชนิด วันที่ 2-3 มืนหัวตาลายโหวงๆ หลังจากนั้นสบายตัว ประหยัดดีด้วย เพราะพยายามไม่ซื้อกินนอกเหนือจากที่ไปสั่งไว้ค่ะ
สูตรที่ 3 สูตร 7 วัน (สูตร 1 ) ลดได้ราว 5 กก.
วันที่ 1 กินผลไม้ทุกชนิดได้เท่าที่ต้องการ ยกเว้นกล้วย กินซุปให้มากๆด้วย
เครื่องดื่มที่สามารถดื่มได้คือ ชา น้ำแครนเบอรี่ และน้ำเปล่า
* เมืองไทยคงหาน้ำแครนเบอรี่ยาก ลองดูเป็นอย่างอื่นละกันค่ะ หรืองดไปเลยก็คงไม่เป็นไร ดื่มน้ำเปล่าดีกว่าอยู่แล้ว
วันที่2 กินผักทุกชนิดได้เท่าที่ต้องการ ไม่ว่าจะสด ดิบ หรือสุก พยายามกินพวกผักใบเขียว เลี่ยงผักจำพวกถั่วเมล็ดแห้ง กินซุปให้มากๆ แต่งดผลไม้ วันนี้ให้รางวัลกับตัวเองด้วยมันอบพร้อมเนย 1 หัว
วันที่3 กินผัก + ผลไม้ + ซุปได้มากเท่าที่ต้องการ แต่งดมันอบ
วันที่4 กินกล้วยให้ได้ 8 ผล และดื่มนมไขมันต่ำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะได้ รวมถึงซุปด้วย
วันที่5 กินเนื้อวัวได้ 300-600 กรัม และมะเขือเทศ1กระป๋อง หรือมะเขือเทศสด 6 ผล
ดื่มน้ำอย่างน้อย 6 แก้วเพื่อชะล้างกรดยูริคจากร่างกาย กินซุปอย่างน้อย 1 หน
* สำหรับคนที่ไม่กินเนื้อวัวให้ดู ** ข้างท้ายค่ะ
วันที่6 กินผักกับเนื้อวัวได้เท่าที่ต้องการ งดมันอบ กินซุปอย่างน้อย 1 หน
วันที่7 กินข้าวกล้อง + ผัก + น้ำผลไม้ที่ไม่ได้ปรุงแต่งรสหวานเพิ่ม กินได้เท่าที่ต้องการ และอย่าลืมกินซุปด้วย
เมื่อจบวันที่7 หากคุณไม่ได้โกงตัวเอง น้ำหนักคุณจะลดไปได้ 4.5 – 8 กิโล หากต้องการลดเพิ่ม ให้เว้นระยะสักสองวันก่อนจะเริ่มใหม่จากวันที่ 1 สามารถทำไปได้เรื่อยๆจนกว่าจะเบื่อ
อาหารต้องห้าม ขนมปัง ของทอด แอกอฮอล์ มันฝรั่ง ( เว้นแต่วันที่ระบุไว้ ) น้ำอัดลม
** สำหรับผู้ที่ไม่กินเนื้อวัว สามารถกินไก่ต้มหรือไก่ย่างแทนได้แต่อย่ากินหนัง หากคุณกินปลานึ่งในวันที่5แทนเนื้อวัว ควรกินโปรตีนในวันถัดไปให้มากขึ้น เพื่อชดเชยโปรตีนที่ขาดไป
หากต้องกินยาตามแพทย์สั่ง ก็สามารถกินได้โดยไม่เป็นไร สามารถทำตามสูตรนี้ไปได้เรื่อยๆ
สูตรที่ 4 สูตร 24 วัน ลดได้ 6-8 กก.
สูตรนี้ใช้เวลา 24 วัน ลดได้ 6-8 กก.
โดยจะแบ่งช่วงเป็น4 ช่วงคือ 9 วัน 3 วัน 9 วัน 3 วันค่ะ
ช่วงที่1 (9 วันแรก)
มื้อเช้า ให้ทานส้มโอค่ะ ทานได้มากตามที่ต้องการ + ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม
มื้อกลางวัน ให้ทานเนื้อสัตว์ล้วนๆ โดยไม่มีข้าวหรือผักผลไม้ มาแซมด้วย ใครอยากจะทานสเต็กก็ได้ไม่ขัดข้อง แล้วก็จะทานมากเท่าไหร่ก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่า ต้องเป็นเนื้อสัตว์ชนิดเดียวเท่านั้น ไม่ควรปนเนื้อสัตว์หลายๆชนิดในมื้อเดียวกัน เพราะจะทำให้ย่อยยาก และควรจะเข้าใจไว้ด้วยว่า พวกเนื้อหมู เนื้อวัว จะมีไขมันมากกว่าพวกเนื้อปลา และอาหารพวก ต้ม นึ่ง ย่าง จะดีกว่าพวก ทอด หรือผัด
มื้อเย็นเป็นมื้อที่บางคนอาจจะบ่นว่ายาก เพราะว่าเขาให้กินแต่ข้าวกล้องล้วนๆ ไม่มีเนื้อหรือผักปนเลย แต่เขาให้ใส่ซ๊อสได้ เพราะฉะนั้น ก็นี่เลย ข้าวกล้องผัดกระเทียม ข้าวกล้องผัดมันปู ข้าวกล้องผัดน้ำพริก ตอนแรกที่ใช้สูตรนี้ ดิฉันก็ทำตามอย่างเคร่งครัดค่ะ พอตอนหลัง (คราวหลัง) ก็เริ่มแหวกกฎนิดหน่อย คือ กินข้าวกล้อง(ต้ม) กับ ผักได้ 1 อย่างค่ะ ไม่เป็นไร เพราะลองมาแล้ว ทานได้เท่าที่ต้องการค่ะ
ช่วงที่ 2 (3 วัน)
มื้อเช้า ส้มโอ + ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม
มื้อกลางวัน ผลไม้อะไรก็ได้ มากเท่าที่ต้องการ
มื้อเย็น ผลไม้อะไรก็ได้ มากเท่าที่ต้องการ
ในช่วง 3 วันนี้ หลังจากมื้อเช้าแล้ว คุณจะทานผลไม้อะไรก็ได้ จะทานทุเรียนก็ได้ ไม่มีใครว่า ไม่ต้องกลัวว่าทานทุเรียนแล้วจะทำให้น้ำหนักขึ้น
ช่วงที่ 3 (9วัน)
มื้อเช้า ส้มโอ + ชา/กาแฟไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม
มื้อกลางวัน ผักทุกอย่าง มากเท่าที่ต้องการ ไม่ปนเนื้อสัตว์หรือข้าว
มื้อเย็น ผักทุกอย่าง มากเท่าที่ต้องการ ไม่ปนเนื้อสัตว์หรือข้าว
จะกินเป็นผักต้ม/ผักสดจิ้มน้ำพริก หรือต้มจืดผักก็ได้ แกงเลียงก็ดี แต่ดิฉันก็ไม่วายโกงสูตรนิดๆ บางทีก็กินส้มตำไทยใส่ปู (ปนปูกับกุ้งมานิดหน่อย) หรือไม่ก็ ผักสดราดน้ำยาขนมจีน (ใช้น้ำยาป่า) ฮิ ฮิ
ช่วงที่ 4 (3 วัน)
มื้อเช้า ส้มโอ+ชา/กาแฟไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม
มื้อกลางวัน ผลไม้อะไรก็ได้ มากเท่าที่ต้องการ
มื้อเย็น ผลไม้อะไรก็ได้ มากเท่าที่ต้องการ
สูตรที่ 5 สูตร 7 วัน (สูตร 2 ) กินง่ายมากๆ หาซื้อได้ไม่ต้องทำ
** วันจันทร์ **
เช้า – – ไข่ดาว 1 ฟอง + ไก่ทอด 1 ชิ้น (ไม่เอาหนัง)
กลางวัน – – สะโพกไก่ย่าง 1 ชิ้น + เกาเหลา 1 ชาม
เย็น – – สลัดผัก + กาแฟใส่คอฟฟี่เมตไม่เกิน 1 ช้อนและน้ำตาลไม่เกิน 1/2 ช้อนชา
** วันอังคาร **
เช้า – – ไส้กรอก 2 ชิ้น + สลัดผัก 1 จาน
กลางวัน – – แกงจืดไก่ 1 ถ้วย + เนื้อสัตว์ผัดผัก 1 จาน
เย็น – – น้ำพริกกะปิ + หน่อไม้ + ผักจิ้ม + ไก่ตุ๋นมะดาวดอง 1 ถ้วย
** วันพุธ **
เช้า – – ต้มจืดเลือดหมู ใส่ผักกาดหอม ตำลึง 1 ถ้วย
กลางวัน – – เกาเหลาเนื้อเปื่อย 1 ชาม
เย็น – – ปลากระป๋องยำ กินกับกะหล่ำปลีสด (แทนข้าว) และแกงจืดตำลึง 1 ถ้วย
** วันพฤหัส **
เช้า – – ไข่ดาว 1 ฟอง + แฮม 1 ชิ้น
กลางวัน – – เนื้อสัตว์ตุ๋น 1 ถ้วย กินกับถั่วฝักยาว หรือถั่วแขกลวก 1 ถ้วย
เย็น – – น้ำพริกหอยแมลงภู่ กินกับแตงกวาหรือกะหล่ำปลี
** วันศุกร์ **
เช้า – – ไข่เจียวหมูสับ 1 ฟอง + ถั่วฝักยาว หรือถั่วแขกลวก 1 ถ้วย
กลางวัน – – ไก่ตุ๋น 2 ขา + ผักสด 1 จาน
เย็น – – เนื้อสัตว์ผัดกะเพรา 1 จาน
** วันเสาร์ **
เช้า – – แฮม 2 ชิ้น
กลางวัน – – เกาเหลา 1 ชาม + ส้มตำ 1 จาน
เย็น – – ชะอมชุบไข่ทอด 1 ฟอง + ปลาทูทอด 1 ตัว + ผักสด
** วันอาทิตย์ **
เช้า – -เนื้อไก่ย่าง 1 ชิ้น + ผักสด
กลางวัน – – สลัดเนื้อสัน 1 จาน + ไก่ตุ๋น 1 ถ้วย
เย็น – – ปลาแป๊ะซะ 1 ตัว + ต้มจืด 1 ถ้วย
สูตรที่ 6 สูตร 7 วัน (สูตร 3 )
วันที่ 1 เช้า ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ไข่ต้ม 2 ลูก+ผักต้ม
เย็น สเต็กกับสลัดผักน้ำใสและผลไม้
วันที่ 2 เช้า ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล+โฮลวีตปิ้ง 1 แผ่น
กลางวัน สเต็ก สลัดผักเขียว ผลไม้
เย็น แฮมแผ่นต้ม
วันที่ 3 เช้า ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล+โฮลวีตปิ้ง 2 แผ่น
กลางวัน ไข่ต้ม 2 ลูก สลัดกับแครอต
เย็น แฮมแผ่นต้ม
วันที่ 4 เช้า ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล+โฮลวีตปิ้ง 1 แผ่น
กลางวัน ไข่ต้ม 1 ลูก+แครอตต้ม
เย็น ผลไม้และโยเกิร์ตรสธรรมชาติ
วันที่ 5 เช้า ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ปลาเผาหรือปลาย่างกับผักต้ม
เย็น สเต็กกับสลัดผักน้ำใส
วันที่ 6 เช้า ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ไก่ย่างไม่ติดหนัง
เย็น ไข่ต้ม 2 ฟองและแครอตต้ม
วันที่ 7 เช้า กาแฟหรือชาบีบมะนาว แต่ไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ผลไม้อะไรก็ได้ปริมาณที่ต้องการ
เย็น อะไรก็ได้ที่อยากทาน ไม่จำกัดปริมาณ
สูตรที่ 7 สูตรเมนูที่กินได้ภายใน 7 วัน (จ.-อา.) โดยจำกีดแคลอรี่ ไม่เกิน 1500 แคลอรี่ต่อวัน เหมาะกับคนไม่ชอบกินตามสูตรจ๊ะ
หลายคนบ่นว่า ให้กำจัดอาหาร แต่ไม่รู้ว่าจะกินยังไงดี ผมบังเอิญอ่านโบว์ชัวร์ อาหารลดความอ้วน แล้วเขาจัดเมนูอาหารแยกแต่ละมื้อ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ก็น่าสนใจดี แถมยังคำนวนแคลอรีมาให้ด้วย ถ้ากินได้ตามนี้ ผอมแน่ๆ เพราะว่าปกติ คุณต้องการอาหารไม่ต่ำกว่า 2,500 คาลอรี แต่อาหารตามเมนูนี้ เพียงแค่พันกว่าคาลอรีเท่านั้น ส่วนอาหารเสริมไม่ต้องไปกินหรอกคุณ
มาว่ากันเลยนะครับ ส่วนตัวเลขในวงเล็บเป็นจำนวนคาลอรีครับ
วันจันทร์ มื้อเช้า – นมสด 1 แก้ว (150) แซนวิชไก่ (287)
มื้อกลางวัน – ข้าวหมูแดง (541) ชาเย็น (81)
มื้อเย็น – ข้าวสวย 1 ทัพพี (68) ยำรวมมิตร (132) ฝรั่ง 1/2 ผล (40) คาลอรีรวม 1,299
วันอังคาร มื้อเช้า – น้ำส้มคั้น 1 แก้ว (160) ขนมปังโฮลวีท 2 แผ่น (116)
มื้อกลางวัน – ข้าวผัดหมูใส่ไข่ (557) ส้ม 1 ผล (40)
มื้อเย็น – กระเพาะปลา (250) แอปเปิ้ล 1 ผล (40)
คาลอรีรวม 1,163
วันพุธ มื้อเช้า – แพนเค๊ก 2 ชิ้น (110) น้ำส้มคั้น 1 แก้ว (160)
มื้อกลางวัน – ขนมจีนน้ำยา (332) โอเลี้ยง 1 แก้ว (103)
มื้อเย็น – ข้าวสวย 1 ทัพพี (68) แกงจืดตำลึงหมูสับ (197) สับปะรด 1 ชิ้น (40) คาลอรีรวม 1,010
วันพฤหัส มื้อเช้า – นมสด 1 แก้ว (150) แซนวิชแฮม (398)
มื้อกลางวัน – เส้นใหญ่ราดหน้า (397) ชาเย็น 1 แก้ว (81)
มื้อเย็น – ข้าวสวย 1 ทัพพี (68) แกงส้มกุ้งผักรวม (110)
คาลอรีรวม 1,204
วันศุกร์ มื้อเช้า – โจ๊กใส่ไข่ (250) นมสด 1 แก้ว (150)
มื้อกลางวัน – วุ้นเส้นต้มยำ (245) มะละกอ 1 ชิ้น (40)
มื้อเย็น – ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับ (330) กล้วยน้ำว้า 1 ผล (40)
คาลอรีรวม 1,055
วันเสาร์ มื้อเช้า – ครัวซอง 1 ชิ้น (235) โยเกิร์ตพร่องมันเนย (125)
มื้อกลางวัน – ข้าวราดแกงเขียวหวาน (483) แตงโม 1 ชิ้น (40)
มื้อเย็น – สลัดทูน่าน้ำใส (122) ส้มเขียวหวาน 1 ผล (40)
คาลอรีรวม 1,045
วันอาทิตย์ มื้อเช้า – ขนมปังแครกเกอร์ 2 แผ่น (104) นมพร่องมันเนย 1 แก้ว (80)
มื้อกลางวัน – ข้าวผัดกระเพราไก่ (554) ชาเย็น 1 แก้ว (81)
มื้อเย็น – สุกี้ (200) กล้วยน้ำว้า 1 ผล (40)
คาลอรีรวม 1,059
สูตรที่ 8 สูตร 2 วัน 3 กก.
วันแรก – ทันทีที่ตื่นนอนให้ดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว ผสมกับน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล 2 ช้อนโต๊ะ หากไม่มีน้ำส้มแอปเปิ้ล อาจจะใช้น้ำมะนาวแทนได้ หลังจากนั้นให้รับประทานวิตามินซี 500 มิลลิกรัม
อาหารเช้า – ประกอบด้วยลูกพรุน 8 เม็ด น้ำส้มคั้น 1 แก้ว เมล็ดทานตะวัน 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเกรฟฟุต 1 ถ้วย น้ำแร่ไม่มีแก๊ส 1 แก้ว
อาหารกลางวัน – รับประทานปลาแซลมอนหรือปลาชนิดอื่นที่มีโอเมก้า-3 สูงในปริมาณ 100 กรัม แต่ห้ามทอดหรือปรุงด้วยน้ำมันโดยเด็ดขาด อาจจะย่างกับซอสน้ำมะนาว เคียงข้างด้วยบล็อคเคอรีลวกกินพร้อมกับสลัดผักโขม หรือสลัดมะเขือเทศ แต่ห้ามใส่เกลือ ผลไม้ให้รับประทานได้ 1 ชิ้น เลือกแบบไม่หงวาน น้ำเกรฟฟุต และวิตามินซี 500 มิลลิกรัม
อาหารเย็น เป็นสลัดผักสดกับส้ม 1 ลูก ตามด้วยกล้วย 1 ผล แตงโม 6 ชิ้น หรือสับปะรด โรยด้วยโยเกิร์ตรสธรรมชาติแบบโลว์แฟต และลูกอินทผลัม 1 เม็ด
วันที่สอง เริ่มด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำสมจากแอปเปิ้ลเหมือนกับวันแรกทุกอย่าง ตบท้ายด้วย วิตามินซี 500 มิลลิกรัม
อาหารเช้า – น้ำเปล่าอย่างเดียวไม่ต้องกินอย่างอื่นเลย
อาหารกลางวัน – ให้รับประทานมะเขือเทศสัก 2-3 ผล ผักสดๆไม่ใส่น้ำสลัดเลยยิ่งดี 1 จาน แคงกวา หอมหัวใหญ่ หรือแครอทกรอบๆเป็นสลัดผักรวมได้ ตามด้วยเกรฟฟุต และวิตามินซี 500 มิลลิกรัม
อาหารเย็น – กล้วยหอม 1 ผล และโยเกิร์ตโลว์แฟต 1 ถ้วย
สูตรที่ 9 สูตร 3 วันแบบไทยๆ เหมาะกับลดไม่รีบ สัปดาห์ละ 1 กก. สูตรจำกัดแคลอรี่อาหาร
สูตรนี้เรียกว่า “การลดน้ำหนักแบบไทย” ใช้การควบคุมอาหารและออกกำลังกายเป็นสำคัญ
หลักคือ ควบคุมอาหารที่เป็นสาเหตุของความอ้วน คือ ไขมัน แป้ง และอาหารหวาน
สำหรับสูตร 3 วันที่คิดค้น ได้แก่
วันแรก
มื้อเช้า : โจ๊กหมู 263 กิโลแคลอรี นมพร่องมันเนย 120 กิโลแคลอรี ส้มเขียวหวาน 67 กิโลแคลอรี รวม 450 กิโลแคลอรี
มื้อกลางวัน : ข้าวราดกะเพราไก่ใส่ผักด้วยลดข้าวจากเดิมครึ่งหนึ่งจะเหลือ 436 กิโลแคลอรี ไข่ดาว 125 กิโลแคลอรี สับปะรด 6-7 ชิ้น 67 กิโลแคลอรี รวม 630 กิโลแคลอรี
มื้อเย็น : ข้าวสวย 1 1/2 ทัพพี 166 กิโลแคลอรี ต้มยำปลา 1 ถ้วย 146 กิโลแคลอรี ผัดผักรวม 1 จาน 112 กิโลแคลอรี ฝรั่ง 1/2 ลูก 67 กิโลแคลอรี รวม 490 กิโลแคลอรี
วันที่สอง
มื้อเช้า : ข้าวเหนียว 1/2 ทัพพี หมูปิ้ง 4 ไม้ กล้วยน้ำว้า และกาแฟดำใส่น้ำตาล 1 ก้อน 470 กิโลแคลอรี
มื้อกลางวัน : ข้าวมันไก่ปกติแต่ลดข้าวลง 1/2 ทัพพี สับปะรด 6-7 ชิ้น รวม 586 กิโลแคลอรี
มื้อเย็น : ข้าว 3 ทัพพี ไก่ทอด 2 น่องเล็ก แกงจืดวุ้นเส้นหมูสับ เงาะ 8 ผล รวม 552 กิโลแคลอรี
วันที่สาม
มื้อเช้า : ขนมปัง 2 แผ่น ไส้กรอกลวก 3 ชิ้น ไข่ลวก 1 ฟอง กาแฟดำใส่น้ำตาล 1 ก้อน 468 กิโลแคลอรี
มื้อกลางวัน : ผัดไทยใส่ไข่ลดเส้นลง 1/2 ทัพพี สับปะรด 6-7 ชิ้น 578 กิโลแคลอรี
มื้อเย็น : ข้าวสวย 2 ทัพพี ไก่ทอด 2 น่องเล็ก แกงเขียวหวานหมู 1/2 ถ้วย ผรั่ง 6-7 ชิ้น 450 กิโลแคลอรี
เรียกได้ว่า กินเท่านี้ก็ผอมได้ เพราะปริมาณพลังงานที่ร่างกายต้องการหากเป็นเด็ก ผู้หญิง และคนชราอยู่ที่วันละ 1,600 กิโลแคลอรี ชายและหญิงวัยรุ่น 2,000 กิโลแคลอรี ผู้ใช้แรงงาน 2,400 กิโลแคลอรี ดังนั้นคนที่ต้องการลดน้ำหนักต้องกินอาหารให้พลังงานอยู่ที่ 1,200-1,600 กิโลแคลอรี ก็พอ
จบคอร์สอาหารนี้ คนที่ลดความอ้วนต้องอย่าลืมออกกำลังวันละ 20-40 นาที เพราะการลดอาหารอย่างเดียวไม่ได้ทำให้ไขมันที่สะสมถูกรีดออกมาด้วย หากทำควบคู่กันสูตรนี้จะลดน้ำหนักได้สัปดาห์ละ 1/2-1 กิโลกรัม
สูตรที่ 10 สูตรของลอร่า ศศิธร วัฒนกุล
มื้อเช้า – ข้าวซ้อมมือ จะเป็นข้าวสวย หรือข้าวต้มปลา หรือ กุ้งก็ได้ 1 ถ้วยเล็ก
ไข่ดาวทอดบนกระทะที่เคลือบน้ำมันมะกอก 2 ฟอง
ธัญพืชใส่นมถั่วเหลืองและงาดำป่น 1 ชามใหญ่ มื้อกลางวัน – แกงเลียงใส่ปลาเยอะๆ 1 ถ้วย
ผัดเส้นบุกหรือยำเส้นบุก 1 จาน
ระหว่างมื้อ นมถั่วเหลือง 1 กล่อง หรือน้ำผัก แก้ว หรือผลไม้ พวก ฝรั่ง หรือชมพู่
มื้อเย็น – ปลาเผายัดตะไคร้หรือปลานึ่งกินกับผัก 1 ตัว
(ไม่กินข้าว)
ออกกำลังกายด้วยการเต้นแอโรบิก วิ่ง หรือเดินเร็ว หรือว่ายน้ำทุกวัน ตั้งแต่ 30 นาที-1 ชั่วโมง
สูตรที่ 11 สูตรของตอง ภัครมัย
ผอมด้วยสารพักผัก สูตรนี้ไม่จำกัดว่าเป็นผักชนิดใด เมนูไม่ตายตัว สำคัญที่ใจต้องแข็ง
มื้อเช้า – ผักกาดแก้วราดน้ำซอสญี่ปุ่นแบบไร้น้ำมัน ผสมงาเล็กน้อย รสหวานๆเค็มๆ ยี่ห้อคิริน ฉลากเป็นรูปถั่วเหลือง
มื้อกลางวัน – ผักตามใจชอบผัดกับน้ำ
ระหว่างมื้อ ถั่วแดงกระป๋องเคี้ยวเล่นๆเพลินดี หรือเป็นข้าวโพดอ่อนจิ้มน้ำสุกกี้ก็ได้ หรือน้ำสลัดก็ได้ อร่อยเหมือนกัน
มื้อเย็น – ผักทุกอย่างในโลกต้มรวมกัน กินกับน้ำสุกี้
อาหารเสริม – วิตามินต่างๆทดแทนสารอาหารที่อาจจะขาดไป
ออกกำลังกายด้วยซิทอัพวันละ 200 ครั้ง ยกขาขึ้นลงข้างละ 100 ครั้ง และนั่งคุกเข่า สองมือยันพื้น ถีบขาไปข้างหลังข้างละ 100 ครั้ง
คำเตือน: แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ น้ำอัดลม และไม่สูบบุหรี่
สูตรที่ 12 สูตร 14 วัน ลดได้ 9 กก.
สูตร 14 วัน 9 กิโล
วันที่ 1
เช้า ชาหรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ไข่ต้ม 2 ฟองกับผักต้ม
เย็น สเต็กกับสลัดผักน้ำใส และผลไม้
วันที่ 2
เช้า ชาหรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล กับขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
กลางวัน สเต็กหรือเนื้อหมู เนื้อวัวย่าง กับสลัดผักเขียว และผลไม้
เย็น แฮมแผ่นต้ม ปริมาณเท่าไหร่ก็ได้ตามใจชอบ
วันที่ 3
เช้า ชาหรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล กับขนมปังปิ้ง 2 แผ่น
กลางวัน ไข่ต้ม 2 ฟอง และสลัดกับ แครอท
เย็น แฮมแผ่นต้ม ปริมาณเท่าไหร่ก็ได้ตามใจชอบ
วันที่ 4
เช้า ชาหรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล กับขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
กลางวัน ไข่ต้ม 1 ฟองกับแครอทต้ม
เย็น ผลไม้และโยเกิร์ตรสธรรมชาติ
วันที่ 5
เช้า ชาหรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ปลาเผาหรือปลาย่างกับผักต้ม
เย็น สเต็กกับสลัดผักน้ำใส
วันที่ 6
เช้า ชาหรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ไก่ย่างไม่ติดหนัง
เย็น ไข่ต้ม 2 ฟองและแครอทต้ม
วันที่ 7
เช้า ชาหรือ กาแฟ บีบมะนาวไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ผลไม้อะไรก็ได้ ในปริมาณที่ต้องการ
เย็น อะไรก็ได้ทุกอย่างที่อยากทานไม่จำกัด
วันที่8-14 ก็ให้เริ่มทำเหมือนกับวันที่ 1-7
สูตรที่ 13 สูตรควบคุมอาหาร 13 วัน ถ้าเคร่งครัด ลดได้ 7-20 กก. ขึ้นอยู่กับส่วนเกิน น้ำหนัก ค่ะ
โครงการควบคุมอาหาร 13 วัน
จุดประสงค์ของโครงการนี้ เพื่อปรับปรุงการเผาผลาญอาหารของร่างกาย หลังจากครบ 13 วันแล้วจะรับประทานอาหารได้ตามปกติ น้ำหนักจะไม่ขึ้นเป็นเวลา 12 ปี
ข้อสำคัญ หากทำตามตารางนี้อย่างเคร่งครัดจะลดน้ำหนักได้ประมาณ 7-20 กิโลกรัม ปริมาณอาหารในช่วงควบคุมอาจจะไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย แต่ท่านไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้เสียสุขภาพ เพราะส่วนที่ขาดภายในร่างกายจะทำปฏิกิริยาการเผาผลาญไขมันที่สะสมตามร่างกายมาใช้เป็นพลังงานทดแทน
ระยะเวลา 13 วันนี้ ห้ามดื่มเบียร์ ไวน์ สุรา หมากฝรั่ง ขนมหวาน ลูกอม หรืออาหารอื่นๆแม้เพียงเล็กน้อย การควบคุมอาหารครั้งนี้จะไม่บังเกิดผลใดๆเลย และหากจะเริ่มต้นใหม่ต้องกระทำหลังจาก 6 เดือนไปแล้ว ถ้าควบคุมอาหารได้ถึง 6 วัน ก็จะสามารถเริ่มต้นควบคุมใหม่ได้หลังจาก 3 เดือนไปแล้ว
ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่สามารถควบคุมได้ครบตลอด 13 วัน ท่านจะเป็นผู้มีรูปร่างสมส่วนตามที่ต้องการ และถ้าต้องการควบคุมอีก ต้องหลังจาก 1 ปีไปแล้ว แต่ถ้าเลย 2 ปีไปแล้วจะดีที่สุด
ข้อแนะนำ หากคุณรู้สึกหิวนอกเหนือจากเวลาที่กำหนด ให้ดื่มน้ำมากๆ ห้ามดื่มหรือทานอย่างอื่นแทนเป็นอันขาด
หมายเหตุ
1. กาแฟดำ ใส่น้ำตาลได้ 1 ก้อน
2. ผักต้ม ถ้าใช้ผักขมไทยก็จะดี (ใช้ผักกาดขาว หรือกวางตุ้งแทนก็ได้)
3. มะเขือเทศ ผลใหญ่ 1 ผล ถ้าผลเล็กใช้ 2-3 ผล
4. เนื้อไก่อบ ใช้เนื้อสัน หรือเนื้อหน้าอก ไม่ติดหนัง 2 ขีด
5. สลัด ใช้ผักกาดหอม 1 ต้นเล็ก หอมใหญ่ 1 หัว แตงกวา 2 ลูก (หั่นรวมได้ผัก 1 จาน)
6. น้ำสลัดใส ใช้ 1 ถ้วย ( 3-4 ช้อนโต๊ะ)
7. น้ำมะนาว ใช้มะนาวสด 1-2 ผล ชงน้ำร้อนใส่เกลือ ใส่น้ำแข็งดื่มได้
8. โยเกริ์ต ถ้ามีรสจืดจะดีมาก ถ้าหาไม่ได้เลือกรสที่ชอบ
9. ผลไม้สด 1 ผล เช่น แอปเปิ้ล ชมพู่ มะม่วง ส้ม กล้วย
10. ใช้ปลาช่อนแทนปลากะพงได้
11. น้ำเปล่าดื่มได้ทั้งวัน วันละ 2-3 ลิตร
นอกเหนือจากรายการอาหารนี้ ถ้าหิวให้ดื่มน้ำเปล่าแทนได้อย่างเดียว
ตารางควบคุมอาหาร 13 วัน
วันที่1
อาหารเช้า – กาแฟดำ 1 ถ้วย
อาหารกลางวัน – ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง /ผักกาดต้ม 3 ขีด /มะเขือเทศสด 1 ผล
อาหารเย็น – เนื้อไก่อบ 2 ขีด /สลัด /น้ำมะนาว
วันที่2
อาหารเช้า – กาแฟดำ 1 ถ้วย
อาหารกลางวัน – เนื้อหมูอบ 2.5 ขีด /โยเกริ์ต 1 ถ้วย
อาหารเย็น – เนื้อไก่อบ 2 ขีด /สลัด /น้ำมะนาว /ผลไม้ 1 ผล
วันที่3
อาหารเช้า – กาแฟดำ 1 ถ้วย/ ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
อาหารกลางวัน – ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง /เนื้อหมูอบ 1 ขีด / สลัด /น้ำมะนาว
อาหารเย็น – คื่นช่ายต้มสุก 3 ขีด/ มะเขือเทศ 1 ผล /ผลไม้ 1 ผล
วันที่4
อาหารเช้า – กาแฟดำ 1 ถ้วย /ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
อาหารกลางวัน – น้ำส้มคั้น 1 แก้ว/ โยเกริ์ต 1 ถ้วย
อาหารเย็น – ไข่ต้มแข็ง 1 ฟอง / แครอทสด 1 หัว/นมจืด 1 กล่อง
วันที่5
อาหารเช้า – แครอทสด 1 หัว(ราดด้วยน้ำมะนาว)
อาหารกลางวัน – เนื้อปลากะพงนึ่ง 2 ขีด
อาหารเย็น – เนื้อไก่อบ 2 ขีด /สลัด
วันที่6
อาหารเช้า – กาแฟดำ 1 ถ้วย/ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
อาหารกลางวัน – ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง/ แครอทสด 1 หัว
อาหารเย็น – เนื้อไก่อบ 2 ขีด/ สลัด /น้ำมะนาว
วันที่7
อาหารเช้า – ชา 1 ถ้วยไม่ใส่น้ำตาล/ ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
อาหารกลางวัน – น้ำเปล่าอย่างเดียว
อาหารเย็น – หมูอบ 2 ขีด / ผลไม้ 1 ผล
วันที่8
อาหารเช้า – กาแฟดำ 1 ถ้วย
อาหารกลางวัน – ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง /ผักกาดต้ม 3 ขีด /มะเขือเทศสด 1 ผล
อาหารเย็น – เนื้อไก่อบ 2 ขีด /สลัด /น้ำมะนาว
วันที่9
อาหารเช้า – กาแฟดำ 1 ถ้วย
อาหารกลางวัน – เนื้อหมูอบ 2.5 ขีด /โยเกริ์ต 1 ถ้วย
อาหารเย็น – เนื้อไก่อบ 2 ขีด /สลัด /น้ำมะนาว /ผลไม้ 1 ผล
วันที่10
อาหารเช้า – กาแฟดำ 1 ถ้วย/ ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
อาหารกลางวัน – ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง /เนื้อหมูอบ 1 ขีด / สลัด /น้ำมะนาว
อาหารเย็น – คื่นช่ายต้มสุก 3 ขีด/ มะเขือเทศ 1 ผล /ผลไม้ 1 ผล
วันที่11
อาหารเช้า – กาแฟดำ 1 ถ้วย /ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
อาหารกลางวัน – น้ำส้มคั้น 1 แก้ว/ โยเกริ์ต 1 ถ้วย
อาหารเย็น – ไข่ต้มแข็ง 1 ฟอง / แครอทสด 1 หัว/นมจืด 1 กล่อง
วันที่12
อาหารเช้า – แครอทสด 1 หัว(ราดด้วยน้ำมะนาว)
อาหารกลางวัน – เนื้อปลากะพงนึ่ง 2 ขีด
อาหารเย็น – เนื้อไก่อบ 2 ขีด /สลัด
วันที่13
อาหารเช้า – กาแฟดำ 1 ถ้วย/ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
อาหารกลางวัน – ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง/ แครอทสด 1 หัว
อาหารเย็น – เนื้อไก่อบ 2 ขีด/ สลัด /น้ำมะนาว
สูตรที่ 14 สูตร 14 วัน (สูตรผสมระหว่าง สูตรแอ๊คคิ้น กับ สูตร 13 วัน ) ลดได้ 8 กก. ถ้าทำอย่างเคร่งครัด
สูตรลดน้ำหนัก 14 วัน (ลูกผสมระหว่างแอ๊ตกินส์และสูตร 13 วัน)
สูตรนี้ต้องใช้ความอดทนในการทำมากเลยนะคะเพราะปริมาณอาหารที่ทานได้ในแต่ละมื้อน้อยมากเพราะเราเน้นที่การควบคุม calories และ carbohydrate ต่อวัน เราจำกัดให้มันต่ำกว่ามาตรฐานที่เค้ากำหนดไว้
แต่นั่นแหล่ะค่ะสิ่งสำคัญที่ทำให้ลดได้เร็ว เราทำมาแล้วได้ผลดีค่ะ ราคิดสูตรขึ้นมาเองโดยเอาสูตร 13 วันมารวมกับการลดน้ำหนักแบบ Atkins Diet หากทำสูตรนี้อย่างเคร่งครัดคุณจะสามารถลดน้ำหนักได้ อาทิตย์ละ 4 ก.ก. ทั้งนี้แล้วแต่ความสามารถของร่างกาย
เคล็ดลับ
เนื้อ – เนื้ออะไรก็ได้ที่เราชอบ ไม่จำเปนต้องเปนเนื้อล้วนๆนะคะ ติดมันก็ได้ค่ะ อย่างไก่ย่าง-หนังไก่นี่ทานได้สบายมาก ไม่แนะนำหมูปิ้งกับเนื้อแดดเดียวนะคะ มันหวาน น้ำตาลเยอะมาก
ผลไม้ – ควรจะเปนผลไม้เนื้อแข็งค่ะเพราะจะทำให้เราอิ่มได้นานกว่า ที่เราทานคือ apple…ส่วนส้ม-มะม่วง-กล้วย-ทุเรียน เราไม่ขอแนะนำเด็ดขาดเพราะน้ำตาลและแป้งเยอะมาก ถ้าผลไม้ชนิดไหนที่รสหวานมากให้เลี่ยงเลยนะคะ ถ้าใครเลือกที่จะดื่มกาแฟ/ชาตอนเช้า ให้ยกผลไม้ไปไว้มื้อเย็นได้ค่ะ แต่ทานได้แค่วันละลูกเท่านั้น
ผัก – ขอแนะนำว่าผักสีเขียวจะดีที่สุดค่ะ วิตามินและ fiber เยอะมาก fiberจะทำให้เราอิ่มได้นานค่ะ
**ใน 2 อาทิตย์นี้ห้ามทานข้าวเด็ดขาด….เม็ดเดียวก็ไม่ได้ค่ะ!! เส้นก๋วยเตี๋ยวทั้งหลายด้วย
———————–
วันที่ 1
เช้า – ชา/กาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล หรือผลไม้ 1 ลูก// เห็นว่าที่เมืองไทยกำลังฮิต เปนชาเขียวแบบไม่ใส่น้ำตาล 1 ขวดก็ได้ค่ะ
กลางวัน – เนื้อ 2 ขีด + ผัก 1 กำ (ต้ม/ผัด ฯลฯ) (เช่นผัดผักใส่เนิ้อได้ 2 ขีดเปนต้น)
เย็น – สลัดผัก 1 จานเล็ก + ไข่ 2 ฟอง (เจียว/ต้ม ฯลฯ รึว่าจะทำสลัดผักใส่ไข่ต้มก็ได้ค่ะ)
วันที่ 2
เช้า – ชา/กาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล หรือผลไม้ 1 ลูก
กลางวัน – เกาเหลาเนื้อหรือลูกชิ้น ห้ามทานเส้นเด็ดขาด!
เย็น – เนื้อ 1 ขีด (เช่นไก่ย่าง 1 ไม้) + cheddar cheese 1-2 แผ่น
วันที่ 3
เช้า – ชา/กาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล หรือผลไม้ 1 ลูก
กลางวัน – สลัดผัก 1 จานเล็ก + ไข่ 2 ฟอง
เย็น – เนื้อ 2 ขีด + cheddar cheese 1-2 แผ่น
วันที่ 4
เช้า – ชา/กาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล หรือผลไม้ 1 ลูก
กลางวัน – ไข่ 1 ฟอง + ผัก 1 กำ (แล้วแต่จำทำทานค่ะ แต่อย่าให้เกินนี้)
เย็น – โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย + cheddar cheese 1-2 แผ่น
วันที่ 5
เช้า – ชา/กาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล หรือผลไม้ 1 ลูก
กลางวัน – ปลาเผาหรือปลาย่าง 2 ขีด
เย็น – เนื้อ 2 ขีด + สลัดผัก 1 จานเล็ก
วันที่ 6
เช้า – ชา/กาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล หรือผลไม้ 1 ลูก
กลางวัน – เนื้อ 2 ขีด (เช่นทานไก่ย่างเล่นๆซัก 1-2 ไม้)+ cheddar cheese 1-2 แผ่น
เย็น – ไข่ 2 ฟอง + ผัก 1 กำ
วันที่ 7
เช้า – ชา/กาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล หรือผลไม้ 1 ลูก
กลางวัน – ผลไม้อย่างเดียว + cheddar cheese 1-2 แผ่น
เย็น – ไข่ 2 ฟอง + ผัก 1 กำ
Facebook Comments