7 สรรพคุณ… ประโยชน์ของจิงจูฉ่าย ต่อต้านมะเร็งร้าย ช่วยปรับสมดุลร่างกาย
“จิงจูฉ่าย” (White Mugwort) สมุนไพรชนิดนี้อาจไม่ค่อยคุ้นหูเรามากนัก และหลายคนอาจสงสัยว่าสมุนไพรชนิดนี้มีหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ฟังชื่อแล้วน่าจะมีถิ่นกำเนิดมาจากจีนแน่ๆ ทำให้คนไทยไม่ค่อยคุ้นเคยกันสักเท่าไหร่ แต่หากสังเกตให้ดีๆ จะพบว่า “จิงจูฉ่าย” หรือที่ชาวต่างชาติเรียกว่า “เซเลอรี” (Celery) นั้น มักจะปรากฏให้เราเห็นในถ้วยต้มเลือดหมูที่คนขายใส่มาเพื่อดับกลิ่นคาว ส่วนชาวต่างชาตินิยมใช้วางตกแต่งไว้ข้างๆ จานอาหารให้ดูมีสีสันขึ้นมา
“จิงจูฉ่าย” คนไทยบ้างก็เรียก “โกศจุฬาลัมพา” จัดเป็นพืชล้มลุก พุ่มมีขนาดเล็ก สูงประมาณ 0.5-1 ฟุต ลักษณะคล้ายต้นขึ้นฉ่าย โดยใบเป็นรูปรี ขอบเป็นแฉกสีเขียว 5 แฉก เนื้อใบหนา เหง้ามีขนาดใหญ่กระจายไปทั่ว เมื่อโตจะแตกกิ่งก้านออกเป็นกอคล้ายกับใบบัวบก ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด หากปลูกในที่อากาศเย็นจะได้ผลผลิตดีมากกว่าปลูกในที่อากาศร้อน หากปลูกดีๆ สามารถเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้งามให้กับเกษตรกรได้ หรือใครจะปลูกไว้กินเองภายในบ้านก็ได้เช่นกัน
จิงจูฉ่าย…สรรพคุณทางยา มีฤทธิ์เย็น ปลูกง่าย ทานอร่อย
จิงจูฉ่ายถือเป็นพืชที่มีฤทธิ์เย็น มีรสชาติขมเล็กน้อย ให้กลิ่นหอม ยิ่งเมื่อถูกความร้อนกลิ่นจะยิ่งหอมมากขึ้น คนจีนนิยมนำมาปรุงอาหารกินในหน้าหนาวเพราะเชื่อว่าจะช่วยปรับสมดุลภายในร่างกาย ปัจจุบันผู้คนนิยมนำจิงจูฉ่ายมาทำอาหารหลากหลายชนิด ทั้งผัด ต้ม แกง กินสดเป็นผักแกล้มกับลาบ หรือนำจิงจูฉ่ายมาตากแห้งชงดื่มเป็นชาสมุนไพรก็ได้ แต่การจะกินให้ได้คุณค่าทางโภชนการ ควรจะกินแบบสดๆ เพราะมีสารไลโมนีน ซิลนีน และไกลโคไซด์ชื่ออะปิอิน มีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุลความดันเลือดในร่างกาย นอกจากนั้นสรรพคุณในจิงจูฉ่ายยังมีน้ำมันหอมระเหยอยู่ในใบและลำต้น ช่วยขับลมในกระเพาะอาหารได้ดี ส่วนในลำต้นสดและเมล็ดมีปริมาณโซเดียมต่ำผู้เป็นโรคไตจึงสามารถกินได้
จิงจูฉ่ายเป็นพืชสมุนไพรที่ปลูกและขยายพันธุ์ได้ง่าย และแตกยอดให้กินได้ตลอดทั้งปี จะปลูกโดยใช้เมล็ด ปักชำ หรือจะแยกต้นมาปลูกก็ได้ แล้วจัดให้อยู่ในที่แดดรำไร รดน้ำวันละครั้ง ระวังอย่าให้ขาดน้ำ จิงจูฉ่ายก็พร้อมจะเติบโตให้เราเก็บกินไปได้ตลอด
7 สรรพคุณของจิงจูฉ่าย มีประโยชน์มากมายกว่าที่เราคิด
1. สรรพคุณของจิงจูฉ่ายสู้กับมะเร็งร้ายได้ จากผลการวิจัยพบว่าจิงจูฉ่ายนำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งได้ โดยให้นำใบจิงจูฉ่าย 1 กำมือ มาปั่นหรือตำแล้วคั้นเอาน้ำออกมากินเช้า-เย็น ก่อนกินอาหารประมาณ 1 ชั่วโมง วันละ 1-2 ครั้ง ให้กินติดต่อกันเป็นเวลา 2-3 เดือน จะสามารถต้านทานเซลล์มะเร็งได้ เพราะสารที่มีในต้นจิงจูฉ่ายจะช่วยให้ร่างกายและการรักษาโรคมะเร็งดีขึ้น
2. จิงจูฉ่ายมีเกลือแร่และวิตามินสูง โดยมีวิตามินซีสูงมากกว่ามะนาวถึง 58 เท่า มีวิตามินเอ วิตามินอี วิตามินบี 6 เหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต และใยอาหาร จึงจัดเป็นพืชที่มีสรรพคุณทางยาสูงมาก
3. จิงจูฉ่ายเป็นสมุนไพรบำรุงเลือดลมได้ดี โดยเฉพาะบำรุงเลือดลมสตรี แก้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติ ช่วยประสะเลือด เลือดลมจึงมาตามปกติ
4. น้ำมันหอมระเหยของจิงจูฉ่ายช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องความดัน และช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ดี
5. จิงจูฉ่ายมีสรรพคุณเป็นยาเย็น หากกินในหน้าหนาวจะช่วยบำรุงปอด ช่วยฟอกเลือด ทำให้เลือดลมหมุนเวียนได้สะดวก และช่วยปรับสมดุลร่างกาย
6. ประโยชน์ของจิงจูฉ่ายช่วยดับพิษ แก้อักเสบ แก้ผิวหนังเป็นฝี ตุ่ม แก้ผดผื่นคันได้ดี
7. จิงจูฉ่ายมีประโยชน์รักษาโรคมาลาเรียได้ ซึ่งเชื้อโรคนี้คล้ายๆ กับเซลล์โรคมะเร็ง
แม้ว่าสรรพคุณและประโยชน์ของจิงจูฉ่ายจะดีต่อร่างกาย แต่ข้อควรระวังอย่างนึงคือ สตรีมีครรภ์ห้ามกินผักจิงจูฉ่ายอย่างเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้แท้งได้
เห็นหรือยังว่า “จิงจูฉ่าย” เป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยามากมาย สามารถดูแลรักษาสุขภาพของเราได้ หากรู้จักเลือกกินเลือกใช้อย่างถูกต้องก็จะมีคุณต่อสุขภาพของเรา รู้อย่างนี้แล้วจะหาจิงจูฉ่ายมาปลูกไว้ที่บ้าน หรือซื้อจากตลาดมาทำอาหารก็ได้ แล้วแต่ใครจะสะดวกวิธีไหน ขอเพียงเปิดใจให้จิงจูฉ่ายอยู่ในมื้ออาหารของคุณก็ถือว่าได้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดีขึ้นอีกขั้นหนึ่ง
Facebook Comments