สรรพคุณของฟักเขียว

สรรพคุณของฟักเขียว

สรรพคุณของฟักเขียว

สรรพคุณของฟักเขียว
การรับประทานฟักเขียวเป็นประจำช่วยต่อต้านป้องกันและลดความเสี่ยงของการโรคมะเร็ง (ผล)
ช่วยลดน้ำหนักและไขมันในเส้นเลือด ด้วยการใช้เนื้อฟักและเปลือกนำมาต้มเป็นชา ดื่มแทนน้ำเป็นประจำ (ผล,เปลือก)
ผลใช้ประทานมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มพลังทางเพศ (ผล)
ช่วยลดขนาดของเซลล์ไขมัน จากการวิจัยกับหนูทดลองในประเทศจีนพบว่า หนูทดลองมีเซลล์ไขมันที่ลดลงและมีค่าดรรชนีความอ้วนต่ำลงด้วย (ผล)
ในประเทศเกาหลีมีการใช้ฟักเขียวเพื่อรักษาโรคเบาหวาน (ผล)
ช่วยเพิ่มกำลังวังชา (ผล,เมล็ด)
ช่วยบำรุงผิวพรรณ (เมล็ด)
ฟักเขียว สรรพคุณช่วยแก้ธาตุพิการ (ผล)
น้ำคั้นจากผลฟักใช้รักษาโรคเส้นประสาท (ผล)
สารสกัดจากเมล็ดสามารถช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดและมะเร็งได้ เนื่องจากสารสกัดจากเมล็ดมีสารต้านออกซิเดชั่นของกรดไลโนเลอิก ช่วยลดอัตราการออกซิเดชั่นของไขมันเลว (LDL) และยังช่วยยับยั้งฤทธิ์ของเอนไซม์สร้างแอนจิโอเทนซิน (angiotensin-converting enzyme ACE) ได้มากกว่าส่วนอื่นของผล เพราะมีสารประกอบฟีนอลและมีฤทธิ์เอนไซม์ซูเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเตสมากกว่าส่วนอื่นๆ มันจึงช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดและโรคมะเร็งได้ (ผล,เมล็ด)
สารสกัดจากเมล็ดสามารถช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูงและช่วยรักษาอาการอักเสบได้ดีกว่าส่วนอื่นๆ (ผล,เปลือก,เมล็ด)
สารสกัดจากเมล็ดฟักเขียวสามารถช่วยลดการแบ่งตัวของเซลล์และการสร้างหลอดเลือดชนิดที่ต้องการสร้างสารกระตุ้นการเจริญจากไฟโบรบลาสต์ (Basic Fibroblast growth factor bFGF) โดยแปรผันตามความเข้มข้นสารสกัด โดยไม่มีพิษต่อเซลล์ปกติ และยังช่วยยับยั้งการสร้างหลอดเลือดชนิดที่ต้องการ bFGF ในสัตว์ทดลองได้อีกด้วย (เมล็ด)
ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ (ผล)
ช่วยแก้โลหิตเป็นพิษ (ผล)
ช่วยแก้อาการตะครั่นตะครอ หรืออาการครั่นเนื้อครั่นตัว สะบัดร้อนสะบัดหนาว เวลาเริ่มจะเป็นจะเป็นไข้หรือคล้ายจะเป็นไข้(ผล)
เมล็ดฟักเขียว สรรพคุณช่วยรักษาวัณโรค (เมล็ด)
ผลช่วยรักษาโรคปอด ส่วนเมล็ดมีสรรพคุณช่วยบำรุงปอด (ผล,เมล็ด)
ช่วยรักษาโรคหอบหืด (ผล)
น้ำคั้นจากผลฟักใช้อาการโรคชัก ด้วยการนำฟักเขียวปอกเปลือกออก เอาแต่เนื้อนำมาคั้นเอาน้ำสดๆ แล้วใช้ดื่มเป็นประจำ (ผล)
รากช่วยแก้ไข้ ส่วนเมล็ดช่วยลดไข้ หากมีไข้สูงให้ใช้เถาสดในการรักษา (เมล็ด,ราก,เถาสด)
สรรพคุณฟักเขียว ช่วยแก้อาการไอ (ผล,เมล็ด)
ผลช่วยขับเสมหะ ส่วนเมล็ดช่วยละลายเสมหะ (ผล,เมล็ด)
ฟักเขียวมีฤทธิ์เป็นยาเย็น เหมาะรับประทานในช่วงอากาศร้อน และช่วยแก้อาการร้อนในได้เป็นอย่างดี (ผล,ใบ,ไส้ในผล)
ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ คอแห้ง ช่วยทำให้ชุ่มคอ (ผล,ใบ,ราก,เมล็ด,ไส้ในผล)
ช่วยแก้ท้องเสีย (ผล,เปลือก)
สรรพคุณของฟัก ช่วยแก้โรคบิด (ผล,ใบ)
ช่วยแก้อาการอืดแน่นท้อง (ผล)
เมล็ด สรรพคุณช่วยรักษาลำไว้อักเสบ (เมล็ด)
ผลและเมล็ดใช้เป็นยาระบาย (ผล,เมล็ด)
เมล็ดหรือน้ำมันจากเมล็ด มีฤทธิ์ช่วยขับพยาธิได้ (เมล็ด)
เถาสด มีรสขมเย็น ช่วยรักษาริดสีดวงทวาร หรือจะใช้เมล็ดก็ได้ (เถา,เมล็ด)
ช่วยรักษาโรคทางเดินปัสสาวะ (เมล็ด)
ช่วยขับปัสสาวะ (ผล,เปลือก,เมล็ด)
ช่วยรักษาอาการขัดเบา (อาการเริ่มต้นของทางเดินปัสสาวะอักเสบ) ด้วยการใช้ฟักเขียวนำไปตุ๋นกับปลาใช้รับประทาน (ผล)
ช่วยหล่อลื่นอวัยวะเมือก (เมล็ด)
น้ำต้มกับรากใช้รักษาโรคหนองในได้ หรือจะใช้เมล็ดหรือไส้ในผลสดของฟักก็ได้ (ผล,ราก,ไส้ในผล,เมล็ด)
ช่วยแก้ไตอักเสบ (เมล็ด)
ช่วยแก้พิษจากเนื้อสัตว์หรือเนื้อปลา (ผล)
ผลและเมล็ดช่วยแก้อาการบวมน้ำ ส่วนเปลือกช่วยบำบัดอาการบวมน้ำ (ผล,เปลือก,ไส้ในผล)
ช่วยแก้อาการฟกช้ำ (ใบ)
สรรพคุณทางยาของฟักเขียว ใบช่วยรักษาบาดแผล (ใบ)
เถ้าเปลือกนำมาใช้ใส่แผล (เถ้าเปลือก)
ช่วยลดอาการอักเสบ (เมล็ด)
ช่วยแก้อาการบวมอักเสบและมีหนอง (ผล,ใบ,เปลือก,ใส้ในผล)
ช่วยรักษาแผลมีหนองตกสะเก็ด ด้วยการใช้เมล็ดที่ตากแห้งและล้างสะอาดแล้วประมาณ 9-30 กรัม นำมาบดเป็นผงหรือต้มกับน้ำ ใช้ทาหรือชะล้าง (เมล็ด)
รากฟักเขียว สรรพคุณช่วยในการถอนพิษ (ราก)
ใบฟักเขียว สรรพคุณช่วยแก้พิษจากการถูกผึ้งต่อย (ใบ)
ใส้ในผลสด 30-60 กรัม นำมาต้มหรือค้นเอาแต่น้ำ ใช้ลบเลือนรอยด่างดำบนในหน้า (ไส้ในผล)
หมายเหตุ : สำหรับวิธีการใช้เปลือก เพื่อใช้เป็นยาแก้ร้อนใน มีอาการคอแห้ง ขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา แก้บวม และบำบัดอาการบวมน้ำ ในตำราจีนระบุว่าให้ใช้เปลือกชั้นนอกของผลฟัก นำไปตากแดดให้แห้งแล้วนะมาผสมรวมกับเยื่อหุ้มถั่วแรก, ดอกต้นกก (เต็งซัมฮวย), น้ำตาลกรวด นำมาล้างรอให้สะเด็ดน้ำจนแห้ง แล้วใส่ในหม้อดินเติมน้ำพอประมาณ ต้มด้วยไฟแรงประมาณ 1 ชั่ว เสร็จแล้วกรองเอาแต่น้ำมาแช่ในตู้เย็นเก็บไว้ดื่มเป็นยาแก้อาการ
ประโยชน์ของฟัก
ผลฟักนิยมนำมาใช้ประกอบอาหารได้ทั้งอาหารคาวและหวาน เมนูฟัก เช่น ฟักต้มราดกะทิจิ้มน้ำพริก แกงฟักเขียว แกงไก่ใส่ฟัก ต้มจืดฟัก ใส่กระดูกหมู แกงเขียวหวานไก่ฟักเขียว แกงเผ็ด แกงคั่วฟักกระดูกอ่อน แกงเลียงรวมผักใส่ฟัก ฟักเขียวผัดไข่ ฟักผัดไข่ใส่หมูหรือกุ้งแห้ง ฟักเขียวดอง ฟักเชื่อม กวนแยม ฟักเขียวแช่อิ่มแห้ง ขนมฟักเขียว ขนมจันอับสำหรับไหว้ตรุษจีน ฯลฯ
ยอดอ่อนสามารถนำมาลวกหรือต้มกับกะทิ ใช้รับประทานคู่กับน้ำพริกได้
ใบอ่อนและตาดอกฟักเขียว สามารถนำไปนึ่งหรือใส่แกงจืดเพื่อช่วยเพิ่มรสชาติได้
เมล็ดสามารถใช้รับประทานได้ และยังอุดมไปด้วยน้ำมันและโปรตีน แต่ต้องทำให้สุกก่อนนำมารับประทาน และสำหรับผู้ที่มีปัญหาในเรื่องระบบขับถ่าย และมีอาการแน่นหน้าอก ไม่ควรรับประทานเมล็ดฟักเขียว
ขี้ผึ้งที่หุ้มผลสามารถนำมาใช้ทำเขียนได้
คุณค่าทางโภชนาการของฟัดเขียวสด ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 13 กิโลแคลอรี่
คาร์โบไฮเดรต 3 กรัม
เส้นใย 2.9 กรัม
ไขมัน 0.2 กรัม
โปรตีน 0.4 กรัม
วิตามินบี1 0.04 มิลลิกรัม 3%
วิตามินบี2 0.011 มิลลิกรัม 9%
วิตามินบี3 0.4 มิลลิกรัม 3%
วิตามินบี5 0.133 มิลลิกรัม 3%
วิตามินบี6 0.035 มิลลิกรัม 3%
วิตามินซี 13 มิลลิกรัม 16%
ธาตุแคลเซียม 19 มิลลิกรัม 2%
ธาตุเหล็ก 0.4 มิลลิกรัม 3%
ธาตุแมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม 3%
ธาตุแมงกานีส 0.058 มิลลิกรัม 3%
ธาตุฟอสฟอรัส 19 มิลลิกรัม 3%
ธาตุโซเดียม 111 มิลลิกรัม 7%
ธาตุสังกะสี 0.61 มิลลิกรัม 6%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
Tip : วิธีการเลือกซื้อฟักเขียว ควรเลือกฟักที่มีเนื้อแข็ง เพราะเมื่อนำมาปรุงอาหารจะมีรสหวานกรอบ ส่วนลักษณะภายในของฟักที่ดีควรจะมีขอบของเยื้อเป็นสีเขียวเข้มแล้วค่อยๆ จางเป็นสีขาวจนถึงตรงกลาง และสำหรับวิธีการเก็บรักษาฟักเขียวให้อยู่ได้นานๆ ก็คือ วิธีการแว็กซ์ หรือใช้ขี้ผึ้งเคลือบผิวภายนอก ก็จะสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นเดือนๆ ถึงค่อนปีเลยทีเดียว แต่ถ้าหากซื้อมาแล้วทำกินไม่หมด เมื่อผ่าผลแล้วให้นำส่วนที่เหลือมาทาปูนแดงที่กินกับหมาก โดยทาตรงรอยผ่าฟักชิ้นนั้น ก็จะสามารถเก็บไว้รับประทานได้อีกนานหลายวัน
แหล่งอ้างอิง : พจนานุกรมสมุนไพรไทย (วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม), มูลนิธิหมอชาวบ้าน (รศ.ดร.สุธาทิพ ภมรประวัติ, เดชา ศิริภัทร), นิตยาสารขวัญเรือน ฉบับที่ 874 (พญ.ลลิตา ธีระสิริ ), รายการสาระความรู้ทางการเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน์), หนังสือสมุนไพรไทย ตอนที่ 5 (ลีนา ผู้พัฒนพงศ์), สถาบันวิจัยและพัฒนาที่สูง (องค์กรมหาชน)
SHARE NOW

Facebook Comments