อย่าเพียงแต่แค่..ผ่านตาไปนะคะ

อย่าเพียงแต่แค่..ผ่านตาไปนะคะ

อย่าเพียงแต่แค่..ผ่านตาไปนะคะ

อย่าเพียงแต่แค่..ผ่านตาไปนะคะ
ต้อยติ่งที่ใครๆมองเห็นเป็นวัชพืชที่ไม่มีคุณค่ามากไปกว่า
ดอกสวยงาม แต่สรรพคุณทางยาของต้อยติ่งมากเหลือเกิน
กระดูกทับเส้น ที่เมื่อเป็นแล้ว ทุกข์ทรมาน หายขาดยาก
แม้จะได้รับการผ่าตัดมาแล้วก็ตาม และรากรักษาโรคไตได้

ดอกต้อยติ่ง ออกเป็นช่อหรือเป็นดอกเดี่ยว ๆ บริเวณซอกใบตามปลายยอด แต่ละช่อมีดอกเดียวหรือ 2-3 ดอก/ช่อ ดอกมีก้านดอกยาว 3-4 เซนติเมตร ตัวดอกมีขนาดประมาณ 4-5 เซนติเมตร ประกอบด้วยกลีบดอก 5 กลีบ แต่ละกลีบมีลักษณะมน ขนาดกลีบดอกประมาณ 2-2.5 เซนติเมตร โคนกลีบดอกเชื่อมกันเป็นกรวย หน้าตัวดอกเป็นรูปปากแตร สีม่วง
ผลต้อยติ่ง เรียกว่า ฝัก ที่มีลักษณะทรงกระบอก และเรียวยาว ปลายทั้งสองด้านแหลม ขนาดฝักประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ฝักอ่อนมีเปลือกฝักสีเขียว แล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และสีดำเมื่อแก่เต็มที่ ฝักแก่มีเปลือกฝักสีดำ มีร่องฝักแบ่งออกเป็น 2 ซีก ด้านในมีเมล็ด 8-15 เมล็ด เมล็ดมีลักษณะแบน คล้ายเหรียญบาท เปลือกเมล็ดมีสีดำ และมีขนยาวขนาดเล็ก (ตาเปล่ามองไม่เห็น) ทั้งนี้ ฝักแก่เมื่อถูกน้ำหรือสัมผัสความชื้นก็จะปริแตกออกเป็น 2 ซีก
ต้อยติ่งเป็นวัชพืชที่มีประโยชน์สามารถนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรรักษาโรค
ส่วนเมล็ด มีสรรพคุณทำให้แผลหายเร็ว พอกฝีช่วยดูดหนองละลดการอักเสบ พอกแผลที่เรื้อรัง มีฝ้ามีหนอง สมานแผล ช่วยเรียกเนื้อ
รากของต้อยติ่งมีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ แก้ปัสสวะพิการ ดับพิษ ทำให้อาเจียน
รากของต้อยติ่งสามารถใช้เป็นยารักษาโรคไต โรคไอกรน หรือแม้แต่เป็นยาขับเลือด ถ้าใช้ในปริมาณที่เจือจางก็สามารถกำจัดสารพิษในเลือด บรรเทาอาการสารพิษตกค้างในปัสสาวะ
ส่วนใบของต้อยติ่งสามารถใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ หรือใช้พอกแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ แต่ต้อยติ่งมักจะถูกถอนทิ้งเพราะคนคิดว่าเป็นวัชพืช
เมล็ดมีสรรพคุณช่วยทำให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น สรรพคุณสมุนไพรต้อยติ่ง เมล็ดช่วยแก้อาการผดผื่นคัน
ต้อยติ่งทั้งต้นเอาชนิดที่ไม่แก่ ดอกยังไม่ร่วงโรย นำมาถอนเอาทั้งรากไม่ให้รากขาดและอย่าให้เมล็ดแตก ประมาณ 4-5 ต้น แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด โขลกคั้นเอาแต่น้ำมาดื่ม
จะช่วยแก้อาการปวดเข่า ขาชา ร้าวลงได้ ซึ่งใช้เลาในการรักษาเพียง 7 วันก็หายใช้ทั้งต้น
อ้างอิงการวิจัย
ใบมี คลอโรฟิลล์ ซึ่งมีคุณสมบัติ สร้างเลือดสร้างเซลล์ ดับกลิ่นตัวกลิ่นปาก กลิ่นเท้า ล้างพิษ ต้านการเสื่อมถอย ชะลอวัย และ apigenin(เป็นสารฟลาโวนอยต์ ที่ชื่อ apigenin ต้านไวรัสได้ 18 ชนิด ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งรังไข่ได้ 28 เปอร์เซ็นต์ ปกติ จะพบในขึ้นฉ่ายฝรั่ง พาร์สลีย์ ไวน์แดง ซาคาโมมายล์ และซอสมะเขือเทศ ซึ่งมีสายฟลาโวนอยต์ ที่ชื่อ apigenin และในขณะที่เมล็ดต้อยติ่งมี luteolin ซึ่งเป็นสารในกลุ่ม flavonoids มีฤทธิ์ต้านภูมิแพ้ (anti-allergy) และต้านการอักเสบ น้ำมัน myristic กรดไมริสติก (Myristic acid) เป็นกรดไขมัน
สารสำคัญกรดลอริค (Lauris acid) ซึ่งเป็นสารตัวเดียวกับที่พบในน้ำนมแม่ เป็นกรดไขมันสายปานกลาง (medium chain faity acid) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
มีแร่ธาตุและสารอาหารในปริมาณสูง ที่ให้ความชุ่มชื้นและช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อโปรโตซัว รวมทั้งมีคุณสมบัติในการเสริมสุขภาพและความงาม และมีกรด caprilล กรดคาปริคที่มีอยู่ ในเมล็ดต้อยติ่ง ก็ช่วยเสริมประสิทธิภาพของกรดลอริค
กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated fat) คือ ไขมันที่เป็นไขมันเต็มตัว คือ ธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจนจับกันเป็นลูกโซ่โดย สมบูรณ์ และไม่มีช่องว่างเหลือที่จะทำปฏิกิริยากับสารใด ๆ ในร่างกาย พบมากในพวกไขมันสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว และไขมันจากกะทิ มะพร้าว เนย และไข่แดงกรดไขมันส่วนมากมีจำนวน C อะตอม C12 – C18 ชนิด
ที่มีจำนวน C อะตอมน้อยกว่า 12 ได้แก่ กรดบิวทาโนอิก ใที่พบในเนย กรดไขมันไม่ละลายน้ำ กรดไขมันจะมีจุดเดือดและจุด หลอมเหลวสูงขึ้นตามจำนวนคาร์บอนอะตอมที่เพิ่มขึ้น และกรดไขมันอิ่มตัวมีจุดเดือดสูงกว่า กรดไขมันไม่อิ่มตัว ที่มีมวลโมเลกุลใกล้เคียงกัน ถ้าเป็นกรดไขมันอิ่มตัวมาก จะเป็นไขมัน ส่วนใบของต้อยติ่งสามารถใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ หรือใช้พอกแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ แต่ต้อยติ่งมักจะถูกถอนทิ้งเพราะคนคิดว่าเป็นวัชพืช
รากถูกนำมาใช้กับโรคไตและโรคไอกรน ล้างพิษในเลือด (Infusion)ที่ใช้สำหรับการทำความสะอาดเลือดหรือแม้แต่เป็นยาขับเลือด ถ้าใช้ในปริมาณที่เจือจางก็สามารถกำจัด สารพิษในเลือด ทำให้อาเจียน ใช้ดับพิษ และการบรรเทาอาการสารพิษตกค้างในปัสสาวะ
ยาน้ำมันทั้งชำระเรียกเนื้อสรรพแผลทั้งปวง เอาใบบวบขม ,ใบชิงช้าชาลี,ใบบอระเพ็ด,ใบตำลึงทั้ง ๒ ,ใบมะระ,ใบต้อยติ่ง,ใบเถาคัน,ใบคันชุนสุนัขบ้า,ใบตะลุ่มนก,ใบหนามแดง,ใบกรดทั้ง ๒ ,ใบพุทรา,ใบสะเดา,ใบระงับ,ขมิ้นอ้อย, คั้นเอาน้ำสิ่งละทะนาน ,น้ำมันมะพร้าว ,น้ำมันปลาสร้อย,น้ำมันงา,สิ่งละทะนาน,หุงให้คงแต่น้ำมัน, แล้วจึงเอาจุณสี ๑ สลึง ชันอ้อย, ชันตะเคียน, สีเสียดเทศ, สีเสียดไทย, สีเสียดจีน,สิ่งละ ๑ บาท ทำเป็นจุณปรุงลงในน้ำมันใส่แผลทั้งกัดทั้งเรียกเนื้อร้ายเร็วดีนัก
ในปัจจุบัน กำลังมีการดำเนินการศึกษาด้าน pharmacognostical และการศึกษาพฤกษเคมีเบื้องต้นพร้อมกับ HPTLC, ส่วนการวิเคราะห์ Ruellia tuberosa L. อินทรีย์เบื้องต้นพบการปรากฏตัวของสารต่าง ๆเช่น
1. แทนนิน ( tannin) เป็นสารที่มีโมเลกุลใหญ่และโครงสร้างซับซ้อน มีสถานะเป็นกรดอ่อนรสฝาด เป็นสารให้ความฝาดในพืช พบได้ในพืชหลายชนิด แทนนิน มี 2 ชนิด คือ คอนเดนส์แทนนิน หรือเรียกอีกอย่างว่า โปรแอนโทรไซยานิน พบได้ในส่วนเปลือกต้น และแก่นไม้เป็นส่วนใหญ่ และ สารไฮโดรไลซ์แทนนินคือแบบที่สามารถถูกแยกออกเป็นโมเลกุลเล็กๆ ได้ พบมากในส่วนใบ ฝัก และส่วนที่ปูดออกมาจากปกติ เมื่อต้นไม้ได้รับอันตราย (gall) แทนนิน มีคุณสมบัติตกตะกอนโปรตีน ทำให้หนังสัตว์ไม่เน่าเปื่อย จึงมีการใช้ในอุตสาหกรรมฟอกหนังด้วย แทนนินมีฤทธิ์ฝาดสมาน จึงใช้เป็นยารักษาโรคท้องเสียได้ แทนนินมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียได้ ตั
2. Flavonoid, ไบโอฟลาโวนอยด์มีหน้าที่ดูดซึมวิตามิน ซี และเสริมฤทธิ์ของวิตามิน ซีให้อยู่ในร่างกายได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเมื่อใดที่ร่างกายขาดวิตามิน ซี ก็สามารถดึงเอาวิตามิน พี หรือ ไบโอฟลาโวนอยด์ มาใช้ได้เช่นกัน ไบโอฟลาโวนอยด์ ได้ชื่อว่าเป็นสารอาหารที่ใช้รักษาอาการเปราะและแตกง่ายของเส้นเลือด และมีคุณสมบัติในการเสริมสร้างระบบการทำงานของหลอดเลือดและหัวใจ เช่น ทำให้หลอดเลือดแข็งแรงขึ้น ช่วยรักษาหลอดเลือดที่แข็งตัวให้กลับสู่สภาวะปกติ รักษาแผลเรื้อรังจากเบาหวานด้วยการเพิ่มความยืดหยุ่นขอหลอดเลือดให้ระบบสามารถส่งผ่านเลือดไปเลี้ยงบริเวณแผลได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยลดไขมันในเลือดทั้งไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอล ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และยังมีรายงานทางการแพทย์ว่า ไบโอฟลาโวนอยด์สามารถควบคุมการจับตัวของเกล็ดเลือดที่ก่อให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดเล็กๆ และรวมไปถึงหลอดเลือดดำส่วนลึกที่อยู่ภายในกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ไบโอฟลาโวนอยด์ ยังเป็นที่ยอมรับว่าสามารถคลายกล้ามเนื้อเรียบได้ดีเท่าๆ กับยาคลายกล้ามเนื้อ จึงมีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องเนื่องจากการบิดตัวหรือเกร็งตัวของลำไส้ มีอาการที่ดีขึ้น ลดการอักเสบและการบวมของข้อ อาการบวมน้ำ นอกจากนี้ ยังช่วยในการบำบัดอาการหลอดเลือดดำอุดตันและอักเสบ ผื่นแพ้และภูมิแพ้อีกด้วย ยังมีคุณสมบัติที่ดีของไบโอฟลาโวนอยด์อีกมากมาย เช่น ช่วยพิชิตความเครียด ป้องกันโรคหวัด และช่วยในการสมานแผล ฯลฯ โดยจะเห็นได้ว่าไบโอฟลาโวนอยด์ และวิตามิน ซี จะมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกันและเอื้อต่อกัน แต่เหตุผลหลักที่ทำให้ผู้ผลิตนิยมใช้วิตามิน ซี ควบคู่กับไบโอฟลาโวนอยด์ (วิตามิน พี) ก็คือการเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกันเพื่อให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นๆ ได้ประสิทธิภาพที่สุดยอด และตอบโจทย์ความต้องการอย่างสูงสุดของผู้บริโภค ที่มาข้อมูล วัสดุศาสตร์ วิทยาศาสตร์
3.ไฟโตสเตอรอล (Phytosterol) – เป็นสเตอรอยด์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในพืชไฟโตสเตอโรล.ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลรวม และโคเลสเตอรอลชนิดร้าย …
4.โพลีฟีนอล (Pholyphenols) คือสารเคมีมีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพคือ ต้านอนุมูลอิสระ ต้าน มะเร็ง ลดระดับของ cholesterol และ triglyceride ในเลือด กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
5.Triterpenoid เป็นสาร ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศหญิง สารที่ออกฤทธิ์ คือ triterpenoid ในสารสกัดที่แตกต่างกันตามลำดับ Triterpenoid saponins มับพบในพืชใบเลี้ยงคู่ เช่นพืชในตระกูล (โสม) สารในกลุ่ม saponins มีคุณสมบัติ ทำให้เม็ดเลือดแดงแตก ดังนั้นจึงเป็นอันตรายอย่างมากเมื่อฉีดสารเหล่านี้เข้าเส้นเลือด
วิธีทำ ” น้ำอังกาบ ” หรือ ” น้ำต้อยติ่ง “
1.ถอนต้นต้อยติ่งประมาณ หนึ่งกำมือ 6-10 ต้น หรือดูจากน้ำหนัก ที่ประมาณ 100 กรัม เอาทั้ง 5 พร้อม ต้น ราก ใบ ดอก ผล)
2.ล้างน้ำให้สะอาด หั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ประมาณ 1/2-1 นิ้ว จากนั้นนำไปโขลกหรือบีบ คันปั่น ให้แหลก
3.ต้มน้ำให้เดือดก่อน ในหม้อสแตนเลสประมาณ1,500 ซีซี. เมื่อน้ำเดือดแล้ว จากนั้น นำต้นต้อยติ่งที่โขลกแล้ว ใส่ลงในหม้อ ไปเมื่อ น้ำเดือดใส่ กลีเซอรรีน 2 ซี.ซี.เพื่อละลายสารสำคัญส่วนที่เป็นน้ำมัน
(ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใช้) จากนั้นรอให้เดือดอีกครั้ง แล้วยกลงทิ้งให้เย็นอาจน้ำมาแช่ในอ่างน้ำเพื่อให้เย็นลง หลังจากนั้น ก็กรองเอากากต้อยตึ่งออก
4.ใส่ น้ำผึ้ง ประมาณ 2 ซ้อนโต๊ะ หรือไม่ไส่ก็ได้ ตามใจชอบ แล้วนำใส่ภาชนะตามใจที่ชอบ นำเข้าแช่ในตู้เย็นเมื่อความเย็นพอดีแล้ว เทใส่แก้วพร้อมดื่ม แรก ๆควร ดื่มสัก 50 -75 ซี.ซี .ก่อน และแต่ละครั้งละไม่เกิน 1 แก้วหรือดื่มครั้งละไม่เกิน 150 ซีซี. วันละ ไม่เกิน 2 แก้ว
สรรพคุณ :ทั้งต้นใช้เป็นยาขับปัสสาวะ, เบาหวาน, ลดไข้, ยาแก้ปวด ลดการปวด – เสียว, ดับร้อนในกระหายน้ำและใช้ล้างพิษ (antidotal ) ในใบมี คลอโรฟิลล์ ซึ่งมีคุณสมบัติ สร้างเลือดสร้างเซลล์ ดับกลิ่นตัว กลิ่นปาก กลิ่นเท้า ล้างพิษ ต้านการเสื่อมถอย ชะลอวัย และ apigenin(เป็นสารฟลาโวนอยต์ ที่ชื่อ apigenin ต้านไวรัสได้ 18 ชนิด ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งรังไข่ได้ 28 เปอร์เซ็นต์
ผู้ไม่เคยดื่มควรเริ่มทดลองดื่มแต่น้อย
เริ่มต้นประมาณ 50 – 75 ซีซี. หรือ 1/2 แก้ว -1 แก้ว
(150 ซี.ซี.ดื่มวันละไม่เกิน 2 แก้ว ไม่เคยดื่มแรก ๆ อาจมีวิกฤติในการล้างพิษบ้าง เช่น งง เวียน หรืออาจมีอาการ ใจสั่น เกิดได้ บ้างเล็กน้อย ได้ รสของน้ำสมุนไพร ต้อยติ่งหรืออังกาบ รสดี กว่าน้ำใบบัวบก หรือน้ำใบหญ้านาง
หรือน้ำวีทกลาส ยิ่งผสมน้ำผึ้งรสดีน่าดื่มมากที่เดียว ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวแต่อย่างใด ส่วนผู้ที่มีปัญหา ด้านสุขภาพประเภทป้อ แป้ด้านเพศ ทั้งหญิงชาย ก็จะเริ่มใช้งานได้ดีขึ้น
มีความถี่ ในการใช้ประโยชน์มากขึ้น ดีแข็งแรงขึ้น น่าจะออกฤทธิ์ได้เร็ว กว่าเมล็ดหมามุ่ย ที่ทำหน้าที่เพียงเป็นสารสื่อประสาทและฮอร์โมน ที่เรื่องลือด้าน พลังทางเพศ และ ราคาแพงเมล็ดละ 6 -10 บาท ในเวลานี้ ส่วนผุู้ทีมีปัญหาด้านการงอกเกิน บริเวณเต้านม ที่เกิดการงอกเกินซ้ำ ประมาณหัวแม่มือ หลังที่ตัดไปแล้วหนึ่งเต้า รับประทานประมาณ 2-4 เดือน โดยการทำบดอัดเป็นแคปซูล
รับประทานวันละ สามเวลาด้านที่ งอกใหม่ได้ยุบลงจนบัดไม่ปรากฏอาการขึ้นมา อีก และผู้รับประทานได้ไปตรวจ
ที่ศูนย์มะเร็ง ปรากฏผลการแจ้งว่าหายดีแล้ว
จากประสพการณ์ของผู้เขียน เนื่องจากผู้ป่วย ร้องขอให้ช่วยบดสมุนไพรให้รับประทานหน่อย ในการนี้ ได้รวบรวมผสมรวมกับสมุนไพรอื่น ๆ ที่จำเป็นใช้กันอยู่แล้วร่วม ด้วย โดยเก็บจากสมุนไพรจากสนามฟุตบอลหน้าบ้าน ฮ่า ๆ
ส่วนผลจากผู้ที่เคยดื่มมาแล้ว ” ขออนุญาตบอกต่อนะครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับผู้อื่นบ้าง” สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นกระดูกทับเส้นหรือมีญาติและคนรู้จักที่มีอาการดังนี้ มีอาการปวดหลังช่วงเอว สะโพก ร้าวลงขา สามารถรักษาบรรเทาอาการปวดง่ายๆ ด้วยต้นต้อยติ่ง สิ่งที่เราคิดว่าเป็นวัชพืช
จากประสบการณ์ที่ผมข้อความจาก ผู้ป่วยเป็นกระดูกทับเส้น มีอาการดังกล่าวข้างต้น ผมมีอาการนี้มาประมาณ3-4 ปี ได้รับการแนะนำจาก “น้องน้ำ” น้องสาวคนหนึ่งจากอำเภอแม่สอด แนะนำว่ามีคนที่รู้จักกัน มีอาการเดียวกับผม เค้าต้มต้นต้อยติ่งกับน้ำสะอาด และกรองเอาเฉพาะน้ำมาดื่ม จิบแทนน้ำชา จนอาการดีขึ้นมาก จึงแนะนำให้ผมลองต้มต้นต้อยติ่ง ดื่มบ้าง และผมก็ได้ลองทำตาม โดยใช้ต้นต้อยติ่ง ถอนมาทั้งต้นและราก ประมาณ 1 กำมือ หรือ 5-6 ต้นมาล้างน้ำให้สะอาด และต้มกับน้ำสะอาดประมาณ 2 ขวดเฮลล์บลูบอย (ประมาณ 1.5 ลิตร ทำเหมือนกับต้มน้ำผัก) และกรองเอาเฉพาะน้ำมาดื่ม ปรากฏว่า อาการปวดที่เคยปวดมากก็เบาลงไป สามารถยกขาขึ้นสูงกว่าเดิมได้ การลุกยืน เดิน นั่งทำได้ดีกว่าเดิมมากๆ จนเป็นที่น่าแปลกใจ ว่าสิ่งที่เรามองข้ามและไม่เคยรู้คุณค่าของมันจะช่วยให้การดำเนินชีวิตของผมดีขึ้น จากเดิมที่ผมคิดว่าปวดขนาดนี้คงต้องผ่าตัดแน่ๆ แต่ตอนนี้ผมอาการดีขึ้นแล้วครับ…ผมขอขอบคุณน้องสาวที่แสนใจดี พิมพ์พรรณ ฯ (น้องน้ำ) จากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มากๆนะครับ ถ้าไม่ได้รับคำแนะนำจากน้อง ผมคงต้องให้หมอผ่าตัด เจ็บตัว เสียตังค์แน่ๆเลย “
รวบรวมโดย:นศ.พท.อรรณพ ผลบุณยรักษ์
อ้างอิง
SHARE NOW

Facebook Comments