เก๋ากี้ ต้านเซลมะเร็ง ลดน้ำตาลในเลือด บำรุงสายตา

“เก๋ากี้” สมุนไพรจีนที่รุ้จักกันเป็นเวลานาน ในเรื่องบำรุงร่างกายทำให้ไม่แก่เร็วหรือเรียกว่า ยาอายุวัฒนะ นั่นเอง และก็ยังมีสรรพคุณต่อต้านมะเร็งพร้อมส่งเสริมสุขภาพอื่นๆได้ในหลายด้านเลยทีเดียว……..อย่างนี้ไม่รู้ไว้ไม่ได้สาแล้ว..

……………………………….

ช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง ลดระดับน้ำตาลในเลือด มีวิตามินซีสูงช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน บำรุงสายตา แก้โรคอัลไซเมอร์ นับได้ว่าเป็นสมุนไพรจีนชั้นเลิศ เป็นยาอายุวัฒนะที่คนจีนรู้จักกันดี

ประโยชน์ที่มีต่อสุขภาพ

นักสมุนไพรชาวจีนแนะนำให้ใช้ผลเก๋ากี่เพื่อปกป้องตับและไต, ช่วยการไหลเวียน, และช่วยอาการต่าง เช่น วิงเวียน, เสียงลั่นในหู, ตาเบลอมองไม่ชัด แลปัญหาสายตาอื่น ๆ เก่ากี่ยังใช้เป็นยาอายุวัฒนะ, เพิ่มภูมิคุ้มกันและสมรรถภาพทางเพศ

………………………………..

ผลเก๋ากี่ดูจะมีประโยชน์มากกับตับ โดยช่วยปกป้องจากสารพิษต่าง การศึกษาทางวิทยาศาสตร์หลายครั้งก็แสดงให้เห็นมากมาย การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Ethnopharmacology พบว่า ผลเก๋ากี่ลดความเสียหายของตับในหนูทดลองที่ได้รับสารเคมีที่เป็นพิษลงได้ นักวิจัยคาดว่าคุณสมบัติในการป้องกันนี้อาจเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติที่เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ที่แรง

………………………………..

การศึกษาเบื้องต้นในสัตว์ทดลองยังแนะว่า เก๋ากี่อาจช่วยให้น้ำตาลในเลือดสมดุล และนักวิจัยคาดว่านี่ยังอาจช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ได้ด้วย

มามองกันให้ชัด

ผลเก๋ากี่อุดมด้วยเบต้าแคโรทีน, วิตามินบีชนิดต่าง ๆ และวิตามินซี มีสารเบต้าซิโทสเตอรอล (beta-sitosterol) ซึ่งต่อต้านการอักเสบ และโพลีแชคคาไรด์ที่ช่วยภูมิคุ้มกัน ทำให้ผลไม้นี้ทำลายอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างมาก ที่น่าสนใจคือ สารโพลีแซคคาไรด์ในเก๋ากี่นั้นเหมือนกับที่พบในสมุนไพรอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติเพิ่มภูมิคุ้มกันเช่นกันอย่างเช่น เอ็คไคเนเซีย, แอสทรากาลัส และเห็ดริชิ

………………………………..

ที่ไม่ค่อยจะเหมือนผลไม้อื่นก็คือ เก๋ากี่ยังเป็นแหล่งที่ให้กรดไขมันจำเป็นและอะมิโน แอซิด โดยมีอะมิโน แอซิด 18 ชนิด รวมทั้งมีอะมิโน แอซิด ที่จำเป็น (essential amino acids) ครบทั้งแปดชนิดอีกด้วย

………………………………..

คำแนะนำในการใช้

แต่เดิม เก๋ากี่ถูกนำมาใช้ทำซุป, สตูว์ ทำเป็นชาและไวน์ นอกจากนี้ก็ยังรับประทานในรูปผลไม้แห้งด้วย ปริมาณทั่วไปก็คือรับประทานในรูปผลไม้ 6 ถึง 18 กรัม ชงเป็นชาหรือรับประทานเป็นอาหารว่างก็ได้ (การนึ่งจะทำให้ผลอ่อนนุ่มขึ้น) หรือรับประทานในรูปสกัดอาหารเสริม

ขอบคุณข้อมูล

ชมรมผักพื้นบ้าน