5 สมุนไพรช่วยให้นอนหลับ ง่ายขึ้น เพิ่มคุณภาพการนอน ลืมยานอนหลับไปได้เลย

---

อาการนอนไม่หลับ (Insomnia) สามารถแก้ได้โดยไม่จำเป็นต้องไปกินยานอนหลับ วันนี้ขอแนะนำ 5 สมุนไพรช่วยให้นอนหลับ ช่วยให้คุณภาพการนอนดีขึ้นเหมาะสำหรับคนนอนหลับยาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ แต่ในปัจจุบันพบว่าปัญหานี้เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย

สาเหตุหลักเกิดจากภาวะความเครียดจากการทำงาน การเรียนหนังสือ ความสัมพันธ์ในครอบครัว จนส่งผลกระทบต่อคุณภาพการนอน ทำให้นอนไม่เพียงพอ

ถ้าเกิดขึ้นเรื้อรังเป็นเวลานาน อาจจะส่งผลเสียสุขภาพได้ เช่น เหนื่อยล้าอ่อนเพลีย อารมณ์หงุดหงิด อารมณ์เสียง่าย ส่งผลต่อการควบคุมอารมณ์ ความจำ ประสิทธิภาพในการทำงาน

วิธีการแก้ปัญหาการนอนไม่หลับของคนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบัน ก็คงหนีไม่พ้นยานอนหลับ ซึ่งก็สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ แต่ถ้าระยะยาวนั้นไม่ดีแน่ เพราะอาจทำให้คุณติดยานอนหลับได้ กล่าวคือถ้าไม่มียานอนหลับคุณก็จะนอนไม่หลับ

ปัจจุบันเราพบว่ามีสมุนไพรบางชนิดช่วยแก้ปัญหาการนอนไม่หลับได้ โดยไม่ทำให้เสพติด สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพการนอนหลับ ช่วยลดการพึ่งพิงยานอนหลับในระยะยาวได้

• เห็ดหลินจือ
• ขี้เหล็ก
• น้ำมันรำข้าว
• คาโมไมล์
• สารสกัดจากรากวาเลอเรี่ยน 

ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับง่าย ก็อาจจะพิจารณาเป็นทางเลือกหนึ่งได้เช่นกัน

.

1.เห็ดหลินจือ (Ganoderma lucidum) เป็นสมุนไพรที่หลายๆ คนคาดไม่ถึงว่าจะช่วยในเรื่องของการนอนหลับ เพราะโดยส่วนมากจะรู้แค่ว่าเห็ดหลินจือมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง เพิ่มภูมิต้านทาน ลดน้ำตาลในกระแสเลือด รักษาภูมิแพ้

แต่เราจะสังเกตได้ว่าคนที่รับประทานเห็ดหลินจือสกัดมักจะมีอาการง่วงนอน หาวบ่อย และหลับง่ายขึ้น ซึ่งก็สอดคล้องกับงานวิจัยในปัจจุบัน พบว่าสารสกัดของเห็ดหลินจือมีฤทธิ์ปรับสมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง ช่วยลดความเครียด ทำให้สมองปลอดโปร่ง เพิ่มระยะเวลาการนอนหลับและช่วยให้นอนหลับสนิทขึ้น ( เพิ่ม sleeping time, non-REM sleep time) ผ่านกลไกการทำงานของ GABAergic ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นอนหลับได้ง่ายขึ้น

.

2.ขี้เหล็ก (Cassia) เป็นพืชสมุนไพรไทยอีกชนิดที่นอกจากจะใช้เป็นอาหารแล้วยังสามารถใช้เป็นยาได้อีกด้วย โดยพบว่าสารในขี้เหล็กมีฤทธิ์ลดอาการวิตกกังวลและช่วยให้นอนหลับ โดยภูมิปัญญาชาวบ้านจะบอกว่าถ้าวันไหนนอนไม่หลับก็ให้รับประทานแกงขี้เหล็ก คืนนั้นก็จะนอนหลับง่าย โดยส่วนที่นำมาใช้คือดอกและใบอ่อน

• ควรรับประทานขึ้เหล็กในรูปแบบอาหารจะปลอดภัยที่สุด ผู้เป็นโรคตับอักเสบควรหลีกเลี่ยงขี้เหล็กในรูปแบบบรรจุแคปซูล

สำหรับวิธีการใช้นั้นควรนำขี้เหล็กมาประกอบอาหารจะดีที่สุด เพราะจะมีการต้มน้ำแล้วทิ้งหลายครั้งทำให้ลดความเป็นพิษของสาร Barakol ลง (สาร Barakol มีฤทธิ์ช่วยให้นอนหลับแต่ก็มีพิษต่อตับด้วย) มีรายงานพบว่าการรับประทานขี้เหล็กแคบซูลเป็นประจำทำให้เกิดตับอักเสบและดีซ่านได้ค่อนข้างบ่อย จึงควรหลีกเลี่ยงในผู้ป่วยโรคตับอักเสบและดีซ่าน

.

3.น้ำมันรำข้าว (Rice bran oil) น้ำมันรำข้าวมีประโยชน์สำหรับผู้ที่นอนหลับยาก เพราะมีฤทธิ์ให้เกิดอาการง่วง (Hypnotic effect) ช่วยผ่อนคลาย ลดความเครียด บำรุงระบบประสาท จากงานวิจัยพบว่าสาร β-sitosterol and ferulic acid ช่วยให้นอนหลับ โดยผ่านกระบวนการ pentobarbital-induced sleep และ serotonergic system นอกจากนี้สาร แกมม่าออไรซานอล ยังทำให้เกิดการง่วงผ่านกระบวนการ H1 receptor antagonist อีกด้วย

• ควรเลือกน้ำมันรำข้าวที่สกัดเย็นเท่านั้นจึงจะมีสารอาหารครบถ้วน

น้ำมันรำข้าวจัดเป็นสารอาหารที่ค่อนข้างปลอดภัย แม้จะใช้ระยะเวลานานแต่ควรรับประทานควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย จะทำให้สามารถแก้ปัญหาเรื่องการนอนได้อย่างเป็นธรรมชาติ

.

4.คาร์โมไมล์ (Chamomile) เป็นสมุนไพรของประเทศในแถบยุโรป ก็มีขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป มีฤทธิ์ช่วยให้ผ่อนคลาย ช่วยลดความตึงเครียด ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันผลิตภัณฑ์คาร์โมไมล์ จะอยู่ในรูปแบบน้ำมันหอมระเหย และชงดื่มกับน้ำร้อนในรูปแบบของ ชาดอกคาร์โมไมล์ ในดอกคาร์โมไมล์จะสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อ Apigenin ช่วยลดความเครียด ผ่อนคลาย ช่วยให้สมองโล่งปลอดโปร่ง ทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น

.

5.สารสกัดจากรากวาเลอเรี่ยน (Valerian Root) ลาเลอเรี่ยนเป็นพืชสมุนไพรพื้นเมืองของประเทศอังกฤษ แต่ในประเทศไทยนั้นจะอยู่ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วาเลอเรียนมีคุณสมบัติลดความเครียดคลายความกังวล ช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น เป็นที่นิยมในยุโรปและอเมริกา วาเลอเรียนกระตุ้นสารสื่อประสาท GABA ส่งผลให้เกิดอาการง่วง จากการวิจัยพบว่าสารสกัดจากรากวาเลอเรี่ยนช่วยให้หลับง่าย หลับลึกขึ้น และที่สำคัญเพิ่มคุณภาพการนอนให้ดีขึ้นอีกด้วย

.

เพื่อให้เกิดประโยชน์และผลลัพท์สูงสุด นอกจากจะใช้สมุนไพรช่วยให้นอนหลับแล้ว เราควรใช้วิธีอื่นร่วมด้วย เช่น

• รับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่
• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
• รู้จักปล่อยวาง ทำจิตใจให้ผ่องใส ไม่เครียด
• ไม่ดูมือถือก่อนนอน ปิดไฟนอนก่อน 4-5 ทุ่ม
• ห้องนอนควรเงียบไม่มีเสียงรบกวนและมืดสนิท

ซึ่งถ้าเราใช้หลายวิธีเหล่านี้ร่วมกัน ย่อมจะทำให้เรามีคุณภาพการนอนที่ดีได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยานอนหลับเป็นประจำทุกวัน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจในระยะยาวได้