กัญชาเสริมฤทธิ์กับยามะเร็ง และใช้ร่วมกันได้จริงไหม?

ผมเคยเขียนบทความไปแล้วในหัวข้อ กัญชาเสริมฤทธิ์กับยามะเร็งได้หรือไม่ ซึงถ้าใครได้อ่านก็ จะรับทราบว่า กัญชาหรือกัญชงแทบจะไม่ได้ไปทำให้การรักษามะเร็งด้วยยาเคมีบำบัด เกิดความเสียหาย หรือ ทำให้การรักษาล้มเหลวเลย ถ้าคนใช้เข้าใจจริงๆ

เพราะในการศึกษายังไม่พบว่า กัญชาเข้าไปอยู่ในรายการต้องห้ามใช้อย่างเบ็ดเสร็จกับยาเคมีบำบัดตัวไหน หรือที่เรียกว่า Absolutely contraindicated ซึ่งหมายถึง หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็ห้ามใช้คู่กัน เป็นต้น

เพราะเราอย่าลืมว่า สารไฟโตแคนนาบินอยด์ในกัญชา คือ สิ่งที่อยู่ในรายการยาที่ยอมรับทั่วโลกแบบไม่มีใครเถียง คือ การใช้มันในผู้ป่วยมะเร็งที่รักษาแล้วได้รับผลกระทบเกิดอาการข้างเคียงจากยามะเร็ง เช่น คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น

ซึ่งข้อบ่งใช้นี้ ประเทศไทย ก็เขียนไว้ชัดเจนว่า เป็นหนึ่งในข้อบ่งใช้ในกลุ่มที่มีงานวิจัยรับรอง และ เชื่อถือ

นั่นแสดงว่า ระหว่างที่ใช้สารไฟโตแคนนาบินอยด์จากกัญชา ในกรณีนี้ ร่างกายผู้ป่วยก็มียามะเร็งอยู่แล้ว

แต่นี่คือ ความย้อนแย้งในอุตสาหกรรมธุรกิจการแพทย์ เพราะใช้กัญชาแก้อาเจียน แล้วผลพลอยได้ คือ เกิดผลดีกับผู้ป่วยที่มะเร็งลดลง มะเร็งฝ่อ หรือ แม้แต่อาการดีขึ้นอย่างชัดเจน

แต่ระบบการแพทย์ กลับยังไม่มีท่าที ยอมรับความเห็นของผู้ป่วยที่อยากใช้กัญชาตลอดไปในระหว่างการรักษา ไม่ใช่แค่ใช้ตอนจะอ้วกแตกเท่านั้น

ภาพประกอบ ผมยกมาให้ทราบว่า ในมะเร็งหลายๆชนิด มีการนำสารไฟโตแคนนาบินอยด์ ทั้งจากกัญชาและกัญชง มาใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัด เพื่อที่จะดูว่า พวกมันใช้ร่วมกันได้ไหม ไม่ใช่จะใช้แค่ตอนจะอ้วก และยังค้นพบกลไกการออกฤทธิ์ที่พวกมันจะส่งเสริมซึ่งกันและกัน

ซึ่งจากการศึกษาในหลายๆแห่ง หลายๆงานวิจัย ก็พบว่า สารไฟโตแคนนาบินอยด์ ใช้ร่วมกันได้กับยาเคมีบำบัด ไม่จำเป็นต้องรอใช้ตอนผลเสียจากยาเคมี

หรือ เข้าใจง่ายๆ คือ ณ วันนี้เราเข้าใจแล้วว่า กัญชาจะไม่ใช่ยาที่จะมาคอยไล่เก็บหรือจัดการความเสียหายที่ยาเคมีทำไว้กับร่างกาย เหมือน ผู้ใหญ่ที่ต้องมาไล่เก็บหรือจัดการความเลอะเทอะที่เด็กบ้าๆทำไว้ นั่นละ

กัญชาหรือกัญชง มีศักยภาพที่จะเข้ามาจัดการเรื่องวุ่นวายเหล่านี้ได้เลย และถ้าใครยังจำบทความที่ผมเคยเขียนไว้ ที่ว่า จะใช้กัญชาในตอนไหนของการเกิดมะเร็ง และทำไมกัญชาจึงจัดการเซลล์มะเร็งได้ดี ในระยะที่ผู้ป่วยโดนยามะเร็งมาจนพรุนร่างแล้ว

และเข้าใจการทำงานของระบบเอ็นโดแคนนาบินอยด์ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในแบบที่มีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้น ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ ก็จะเชื่อมมุมมองและเหตุผลได้ แล้วก็จะเข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ

ฉะนั้น กัญชา มีงานวิจัยว่า ใช้ร่วมกับยาเคมีในโรคมะเร็งหลายๆชนิด และในความเป็นจริงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก็มีผู้ป่วยที่ใช้แบบนี้จริงๆ

ซึ่งภาครัฐควรต้องรีบยอมรับ และช่วยผู้ป่วยใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ อย่าไปกลัวว่า คนบางกลุ่มจะเสียอำนาจหรือผลประโยชน์ เพราะในกลุ่มนั้น ยังมีอีกหลายคนที่พวกเขาพร้อมจะยินดีช่วยผู้ป่วยตามความสามารถ แต่ต้องไม่โดนเพ็งเล็งและไล่จับ

อ้างอิงบางส่วนจาก

A new strategy to block tumor growth by inhibiting endocannabinoid inactivation. FASEB J 18: 1606–1608.

Cannabinoids inhibit glioma cell invasion by down-regulating matrix metalloproteinase-2 expression. Cancer Res 68: 1945–1952.

The multidrug transporter ABCG2 (BCRP) is inhibited by plant-derived cannabinoids. Br J Pharmacol 152: 815–824.

COX-2 and PPAR-γ confer cannabidiol induced apoptosis of human lung cancer cells. Mol Cancer Ther 12: 69–82.

Cannabidiol inhibits angiogenesis by multiple mechanisms. Br J Pharmacol 167: 1218–1231.

More Science Less Marketing

ภก.พงษ์ศักดิ์ สง่าศรี