ประโยชน์ “หัวไชเท้า”
หัวผักกาด หรือ หัวไชเท้า ภาษาอังกฤษคือ Radish หรือ White Radish (มักจะสะกดผิดเป็น หัวไชเท้า ที่ถูกต้องก็คือ หัวไช้เท้า) ส่วน หัวไชเท้า ชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Raphanus sativus var. longipinnatus มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศจีน โดยทั่วไปแล้วเจ้าหัวผักกาดนี้จะมีอยู่ด้วยกันหลายสีตามไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีแดง สีม่วง สีชมพู และขนาดก็จะแตกต่างกันออกไปตามสายพันธุ์แยกย่อย (Subspecies)
หัวไชเท้า ตามตำราจีนนั้นถือว่ามีฤทธิ์เป็นยาเย็น แต่มีรสเผ็ดร้อน ซึ่งถือว่าผักชนิดนี้มีประโยชน์อย่างมากต่อการทำงานของปอด กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ ช่วยดับกระหายคลายร้อน แก้อาการไอเรื้อรัง มีเสมหะมาก อาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก ซึ่งหากรับประทาน หัวไชเท้า ไปสักระยะหนึ่งแล้วอาการต่างๆเหล่านี้ก็จะบรรเทาอาการให้ดีขึ้น
เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาเย็น จึงไม่ควรที่จะรับประทานหัวผักกาดกับยาหรือสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อนอย่างโสมหรือตังกุย เพราะมันอาจจะไปสะเทินฤทธิ์กันเอง ทำให้โสมหรือตังกุยออกฤทธิ์ไม่ดีเท่าที่ควร แต่อย่าเข้าใจผิดไปว่าหัวผักกาดนี้มันจะไปทำลายฤทธิ์ของยาหรือสมุนไพรอื่นๆทั้งหมด และการรับประทานหัวผักกาดนั้นจะรับประทานสุกหรือดิบก็ได้ แต่การรับประทานแบบดิบๆนั้นจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า
ประโยชน์ของหัวไชเท้า
1. หัวไชเท้า ประโยชน์ของหัวผักกาด สำหรับผู้ที่อยู่ในวัยทองเชื่อว่ามีส่วนช่วยทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง ดูมีน้ำมีนวลเหมือนคนหนุ่มสาว
2.เป็นผักสมุนไพรที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่เป็นหวัด มีอาการไอ คออักเสบเรื้อรังและมีเสียงแหบแห้ง ด้วยการนำ หัวไชเท้า สดมาล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ไว้ในขวดแก้ว หลังจากนั้นโรคน้ำตาล 2-3 ช้อนโต๊ะ แล้วปิดฝาทิ้งไว้ 1 คืนแล้วรินน้ำดื่มเป็นประจำ
3. คั้นเป็นน้ำดื่มดับกระหาย ด้วยการนำ หัวไชเท้า สดมาคั้นเอาน้ำแล้วเติมน้ำขิง น้ำตาลทรายขาวพอหวาน แล้วนำมาต้มให้เดือดแล้วจิบบ่อยๆ
4. มีส่วนช่วยในการนอนหลับ
5. มีส่วนช่วยแก้โรคประสาท
6. หัวไชเท้า สรรพคุณ ช่วยลดความดันโลหิต
7. มีสารลิกนิน (Lignin) ซึ่งจะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสื่อมของเซลล์ และมีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้
8. หัวไชเท้า มีสารเควอร์เซทิน (Quercetin) ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิต้านทานโรคและช่วยต่อต้านมะเร็ง
9. ช่วยระงับอาการหอบ (เมล็ด)
10. ช่วยในการเจริญอาหาร (ใบ,ทั้งต้น)
11. หัวไชเท้า สรรพคุณช่วยลดอุณหภูมิความร้อนในร่างกาย
12. ช่วยขยายหลอดลมและหลอดเลือด
13. ประโยชน์ หัวไชเท้า ช่วยบำรุงโลหิต (ราก)
14. ช่วยทำให้หายใจโล่งขึ้น
15. แก้อาการปวดศีรษะข้างเดียว (ราก)
16. สรรพคุณ หัวไชเท้า ช่วยในการขับและละลายเสมหะ
17. แก้อาการไอหอบมีเสมหะมาก (เมล็ด)
18. ช่วยเรียกน้ำลาย (ราก)
19. แก้อาการอาเจียนเป็นเลือด กระอักเลือด (ราก)
20. ช่วยรักษอาการต่อมน้ำนมบวม น้ำนมคั่ง (ใบ,ทั้งต้น)
21. ช่วยในการกระตุ้นน้ำย่อย ช่วยในการย่อยอาหาร
22. สรรพคุณหัวผักกาดขาว ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย (ใบ,ทั้งต้น)
23.ชาวจีนเชื่อว่าหัวผักกาดมีผลต่อการเคลื่อนตัวของพลังซี่ ซึ่งมีผลต่อกระเพาะอาหารและระบบย่อย
24. ใช้เป็นยาระบาย (เมล็ด)
25. ช่วยรักษาอาการท้องร่วง บิด
26. ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก
27.ช่วยชำระล้างผนังกระเพาะอาหารและลำไส้
28. ช่วยสมานลำไส้ (ราก)
29. มีส่วนช่วยให้ปัสสาวะใส ไม่ขุ่น
30. ช่วยบำรุงม้าม (ราก)
31. ประโยชน์ของ หัวไชเท้า ช่วยส่งเสริมการทำงานของตับ จึงช่วยกำจัดพิษและของเสียในร่างกาย
32. แก้อาการผิวหนังเป็นผื่นคันมีน้ำเหลือง ด้วยการใช้ใบสดน้ำมาคั้นเอาน้ำแล้วทาบริเวณที่เป็นผื่นคัน
33. หัวไชเท้า รักษาฝ้ากระ ด้วยครีม หัวไชเท้า วิธีทําครีม หัวไชเท้า อย่างแรกให้นำ หัวไชเท้า มาล้างให้สะอาด ปอกเปลือกแล้วหั่นบางๆ หลังจากนั้นนำไปปั่นพอละเอียดแล้วใส่น้ำมะนาว 1 ช้อนแกงแล้วปั่นในโถอีกครั้งเป็นอันเสร็จ วิธีพอกหน้าด้วย หัวไชเท้า ให้นำมาทาให้ทั่วผิวหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก หากทำเป็นประจำจะช่วยลดฝ้ากระให้จางลงได้
34. หัวไช้เท้าพอกหน้า การรักษาหน้าด้วย หัวไชเท้า อีกสูตร วิธีพอกหน้าด้วย หัวไชเท้า อย่างแรกให้นำ หัวไชเท้า มาล้างให้สะอาดไม่ต้องปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆประมาณ 2 ช้อนโต๊ะใส่ลงไปในโถปั่น แล้วใส่จมูกข้าวสาลีตามลงไป 1 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วปั่นจนละเอียดเป็นอันเสร็จ แล้วนำมาพอกบริเวณใบหน้า หรือพอกตามตัวเป็นเวลาประมาณ 15 นาทีแล้วจึงล้างออก ควรทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง (สำหรับบางคนการใช้ในช่วงระยะแรกอาจจะมีอาการแสบแดงบ้างเล็กน้อย ก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเป็นเรื่องปกติ หากทำไปสักระยะก็จะเห็นผลชัดเจน
ยิ่งขึ้น)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://health.mthai.com/howto/china-medicine/6405.html
ผักกาดหัว…แก้ปวดหัว
ผักกาดหัว (ไช้เท้า) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า raphanus sativus subsp. longipinnatus วงศ์ brassicaceae ชาวญี่ปุ่นนิยมนำหัวไช้เท้าดิบมาขูดฝอยลงในซีอิ๊ว ใช้เป็นน้ำจิ้ม เพราะเชื่อว่าช่วยกระตุ้นน้ำย่อยได้ดี…
ส่วนชาวจีนนิยมแปรรูปเป็นหัวไช้โป๊เก็บไว้กินตลอดปี แพทย์แผนจีนจัดหัวไช้เท้าอยู่ในกลุ่มหยาง คือเป็นอาหารร้อน ห้ามกินเวลามีไข้ ส่วนตำรายาพื้นบ้านของอินเดีย ระบุว่า การกินหัวไช้เท้าช่วยให้นอนหลับและแก้โรคประสาทได้
ด้านชุดตำรายาล้ำค่าของหมอโฮจุน ที่องค์การยูเนสโกคัดเลือกให้เป็นมรกดความทรงจำแห่งโลก ระบุว่า หัวไช้เท้า ส่วนที่นำมาทำเป็นยาได้ ก็คือส่วนหัว มีรสชาติหวานและเผ็ด มีฤทธิ์เย็นเล็กน้อย ดีต่อลมปราณปอดและลมปราณกระเพาะอาหาร ช่วยย่อยอาหาร ลดความดัน ละลายเสมหะ และถอนพิษ
สารสกัดจากหัวไช้เท้าช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย บรรเทาโรคบิด เลือดกำเดาไหล ปวดศีรษะ มีเสมหะ ไอ อาหารไม่ย่อย ส่วนการดื่มน้ำหัวไช้เท้าสกัดสดๆ วันละ 30-90 มก. หรือจะต้มแล้วดื่มน้ำก็ได้ หรือนำหัวไช้เท้าตากแห้งมาต้มดื่มวันละ 10-30 กรัม ก็จะได้ผลดีเช่นกัน
เมล็ดหัวไช้เท้าแก้อาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืดท้องเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยว ปวดท้อง และหากนำเมล็ดหัวไช้เท้ามาต้มหรือบดเป็นผง กินวันละ 6-12 กรัม จะช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี
ถ้าอาหารไม่ย่อย ท้องเสีย มีอาการไอ หรืออยากขับเสมหะ ให้นำหัวไช้เท้าหั่นละเอียด 300 กรัม และข้าวสวย 80 กรัม ต้มรวมกันจนเละเป็นโจ๊ก กินร้อนๆ เป็นอาหารเช้าและเย็น อาการจะดีขึ้น สำหรับในผู้สูงอายุที่มีอาการหลอดลมอักเสบเรื้อรัง แน่นหน้าอก ไอ และมีเสมหะเยอะ ก็กินได้เหมือนกัน
โดยหัวไช้เท้าจะช่วยแก้อาการจุกและแน่นหน้าอก ความอยากอาหารลดลง แม้ยังไม่ได้กินอะไร รวมทั้งบรรเทาโรคเบาหวานในผู้สูงอายุด้วย ข้อควรระวังก็คือหากไม่มีอาการเจ็บป่วย ห้ามกินเมล็ดหัวไช้เท้า และห้ามใช้คู่กับโสมคน (เหรินเซิน)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
Facebook Comments