9 แนวทางเพื่อสร้างมูลค่าและคุณค่าให้สมุนไพรไทยในเวทีตลาดโลก

9 แนวทางเพื่อสร้างมูลค่าและคุณค่าให้สมุนไพรไทยในเวทีตลาดโลก

9 แนวทางเพื่อสร้างมูลค่าและคุณค่าให้สมุนไพรไทยในเวทีตลาดโลก

9 แนวทางเพื่อสร้างมูลค่าและคุณค่าให้สมุนไพรไทยในเวทีตลาดโลก
การให้ข้อมูลและความรู้อย่างจริงจังของมหาวิทยาลัยของอินเดีย ในเรื่องสรรพคุณและงานวิจัยเกี่ยวกับสมุนไพร ทำให้ยอดขายสมุนไพร ในแบบอายุรเวทของอินเดีย เติบโตในตลาดอเมริกา โดยเฉลี่ย 20 % – 50 %
จากการวิเคราะห์ของผม สมุนไพรไทยจะมีมูลค่าและคุณค่าในเวทีโลก เป็นที่ยอมรับและเชื่อมันของผู้บริโภค สามารถสู้กับสมุนไพรในอายุรเวทของอินเดียได้ ต้องมีแนวทางดังนี้
1. ความชัดเจนและตรงไปตรงมาของภาครัฐในการสนับสนุน
2. การทำการตลาด และ มีการเล่า Story ในเรื่องอายุรเวท และ สมุนไพร ซึ่งเป็นอะไรที่ฝรั่งชอบ ดังเช่น Story สมุนไพรในเกาหลี จีน ซึ่งทำรายได้มหาศาล ตรงนี้ ประเทศไทย หรือ ผู้ประกอบการต้องทำให้ชัดเจน และ เป็นหนึ่งในจุดขายให้ได้
3. ข้อมูลสนับสนุนในการค้นคว้าและวิจัยจากหน่วยงาน เช่น มหาวิทยาลัย หรือ กระทรวงสาธารณสุข ตรงนี้เป็นจุดอ่อนของไทยมาก ไทยชอบฆ่าตัดตอนสมุนไพรไทย ที่เป็นภูมิปัญญาใช้สืบทอดกันมา นับร้อยนับพันปี ทางแก้ คือ หน่วยงานนั้นต้องหาข้อมูลหรือทำวิจัย เพื่อหาทางให้สมุนไพรนั้นๆ มีที่ยืนและสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพและก่อให้เกิดรายได้ ไม่ใช่ไปสร้างความหวาดกลัว และ ความไม่เชื่อมั่นในการใช้สมุนไพร
3. ต้องรื้อระบบการตลาดและประชาสัมพันธ์สมุนไพรไทยใหม่หมด ทั้งการตลาดสร้างความเข้าใจให้คนไทยเอง และ การตลาดให้ชาวต่างชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น
4. ระบบการผลิตที่สามารถทำให้สมุนไพร เข้าไปในร่างกายได้จริงๆ มีการทดสอบอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่เอาสมุนไพร มาบดๆเป็นผง แล้วจับยัดๆใส่แคปซูลในปัจจุบัน แล้วอ้างสรรพคุณไปทั่ว
5. สมุนไพรที่นำมาผลิตต้องมีสารออกฤทธิ์ได้จริง ไม่ใช่แค่ซากสมุนไพร ตรงนี้จะเชื่อมไปถึงตั้งแต่การปลูก การเก็บเกี่ยว และการแปรูป เป็นต้น ณ ปัจจุบัน พืชที่ปลูกเป็นสมุนไพรไทย ยังพบปัญหาในเรื่องคุณภาพและปริมาณสารออกฤทธิ์อย่างมาก ประมาณใช้ขมิ้นก็จริง แต่สารเคอคิวมิน ที่เป็นตัวออกฤทธิ์จริงๆในขมิ้นนั้น กลับน้อยนิด
6. สนับสนุนภาคเอกชนหรือผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก ให้เข้าถึงข้อมูล ทั้งข้อมูลเชิงวิชาการ ข้อมูลเชิงการผลิต มากขึ้น เพื่อนำไปสร้างความเข้าใจให้กับผู้บริโภคอีกทีหนึ่ง
7. มีมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการ ทั้งในด้านการลงทุนผลิต วิจัย ให้สิทธิมาตรการทางภาษี เพื่อสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาสมุนไพรดีๆมีคุณภาพออกมาจำหน่าย
8. ภาครัฐสนับสนุนและช่วยในขั้นตอนการขึ้นทะเบียนอนุญาตในการผลิต
9. พิจารณาให้สมุนไพรไทย สามารถบอกสรรพคุณ และประโยชน์ในการใช้ ตามการรับรองหรือการศึกษาวิจัยที่ค้นพบ ที่เป็นที่ยอมรับของสากล ไม่ใช่กีดกัน ไม่ให้สามารถบอกกล่าวสรรพคุณใหม่ๆ ที่ทันสมัยได้เลย
จากข้อปัญหาที่เจอ ถ้าประเทศไทย สามารถแก้ไขได้อย่างจริงจัง จะสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาล ในแบบสินค้ามีมูลค่าและมีคุณค่า ไม่ใช่ขายกันแบบตลาดตามมีตามเกิด หรือ ตลาดสินค้าสุขภาพแบบประเทศไร้การพัฒนา
More Science Less Marketing
ภก.พงษ์ศักดิ์ สง่าศรี
SHARE NOW

Facebook Comments