คุณสมบัติพิเศษของกล้วยน้ำว้า
ถ้าต้องการ ไม่ให้มีกลิ่นปากและผิวพรรณดี ให้กินกล้วยน้ำว้า หลังตื่นนอนแล้วค่อยแปรงฟัน ทำอย่างนี้ 1 สัปดาห์ กลิ่นปากจะหายไปผิวพรรณก็ดีขึ้น
เป็นยาอายุวัฒนะโดยใช้กล้วยน้ำว้าสุกงอมปอกเปลือกแช่ในน้ำผึ้งอย่างน้อย 1 สัปดาห์ กินวันละ 1-2 ผล ทุกวัน
กล้วยน้ำว้านอกจากจะช่วยในเรื่องของผิวพรรณแล้ว ยังมีเคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งมาบอกให้ทราบกันคือ เมื่อกินกล้วยน้ำว้าแล้วเปลือกอย่าทิ้งนะค่ะ นำมาขัดรองเท้าโดยเฉพาะรองเท้าหนังสีดำ หลังจากนั้นก็ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เช็ดออกรับรองค่ะว่ารองเท้ามันวาวแน่นอน
ต่อไปเรื่องของกล้วยคงจะไม่ใช่กล้วยๆ แล้วนะ กินก็ได้รักษาโรคก็ดี แถมทุกส่วนยังใช้ประโยชน์ได้ดีแม้กระทั่งเปลือกของมันค่ะ
๑. แก้บิดมูกเลือด บำรุงโลหิต ใช้น้ำคั้นจากหัวปลี
๒. ขับพยาธิ ใช้หยวกกล้วยเผาไฟ รับประทานขับพยาธิ
๓. สูญเสียน้ำหลังการออกกำลังกายหรืออบตัว รับประทาน กล้วย หอมสุกทดแทน เพราะมีโปแตสเซี่ยมมาก
๔. ทาแก้ส้นเท้าแตก เปลือกกล้วยหอมสุก เอาด้านในทาส้นเท้า แตก
๕. แก้เบาหวาน ใช้หัวปลีย่างไฟรับประทานเป็นประจำ
๖. บำรุงน้ำนม ทำแกงเลียงหัวปลีทานบ่อยๆ ช่วยเพิ่มน้ำหนักนม มารดา คลอดบุตรใหม่ๆ หรือจิ้มน้ำพริกกินบ่อยๆ
๗. แก้ท้องผูกได้ชะงัด ในกล้วยสุกจริงๆ ไม่ถึงกับดำ จะมีสาร เพ็คติน (Pectin) ซึ่งเป็นเส้นใยอ่อนนุ่ม สามารถกระตุ้นให้เกิดการ ขับถ่ายอย่างดี เพ็คติน จะช่วยเพิ่มกากอาหารในลำไส้ เมื่อกากอาหารมี มาก ก็จะไปดันผนังลำไส้ ทำให้เกิดอาการปวดถ่ายขึ้นมา
๘. แก้ท้องเสีย ใช้กล้วยดิบหั่นเป็นแว่นบางๆ ตากแดดให้แห้ง นำมา บดเป็นผง รับประทานครั้งละ ๑ ช้อนกาแฟ เมื่อมีอาการท้องเสีย กล้วย ดิบมีสารแทนนิน (Tanin) มากช่วยฝาดสมานลำไส้ ลดอาการท้องเสีย ได้ดี
๙. แผลมีเลือดออก ใช้ยางจากก้านใบ นำมาทาแผลสด ที่มีเลือด ไหล ทำให้เลือดหยุด แผลหายเร็ว
๑๐. โรคกระเพาะ ใช้ผงกล้วย ๑-๒ ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำผึ้งเล็กน้อย พอ อุ่น แล้วดื่ม ก่อนอาหาร เช้า-เย็น
๑๑. ถ่ายเป็นบิดมูกเลือด ใช้น้ำคั้นจากหัวปลีดื่ม
๑๒. แก้ผดผื่นคัน ใช้ใบกล้วยต้มอาบ
๑๓. แก้คอพอก ใช้รากกล้วยน้ำว้า ตากแห้งบดเป็นผง ปั้นเป็นเม็ด เท่าเม็ดพุทรา กินครั้งละ ๓ เม็ดก่อนอาหาร เช้า-เย็น
Facebook Comments