สัณญานของไขมันพอกตับ

รู้หรือไม่ว่า ไขมันพอกตับ คือ สาเหตุอันดับ 2 ของการเกิดมะเร็งตับ และ การผ่าตัดปลี่ยนตับใหม่

ซึ่งไขมันพอกตับ ทั้งที่เกิดจากแอลกอฮอร์ และ เกิดจากแป้งและน้ำตาล ไม่มียารักษา แต่ สารเคอร์คิวมินช่วยได้

ใช่แล้วครับ ภาวะไขมันพอกตับ ทั้งชนิดที่เรียกว่า alcoholic fatty liver ซึ่งหมายถึง จากแอลกอฮอร์ และ จากสาเหตุที่ไม่ใช่แอลกอฮอร์ ที่เรียกว่า Non-alcoholic fatty liver disease (NAFLD) ไม่มียาแบบเคมีใช้ในการรักษา หรือ กำจัดไขมันพอกตับ

มีวิธีการเดียว คือ ลดการรับประทานอาหาร หรือ เครื่องดื่ม ที่เป็นสาเหตุ นั่นหมายถึง งดดื่มเหล้า งดอาหารหวานๆ เครื่องดื่มหวานๆ ขนมหวานๆ อาหารจำพวกแป้ง อาหารมื้อดึก เป็นต้น

แต่ก็นั่นละ ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ในชีวิตจริง

ปัจจุบัน มีงานวิจัยที่พบว่า

สารเคอร์คิวมินที่สกัดได้จากขมิ้นชัน สามารถออกฤทธิ์จัดการภาวะไขมันพอกตับ ที่เกิดจากทั้ง 2 สาเหตุหลักได้ รวมทั้ง การเกิดโรคตับชนิดต่างๆ เช่น ตับอักเสบ ตับแข็ง มะเร็งตับ รวมทั้ง ไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น

ที่สำคัญ ถ้ารีบรับประทาน หรือ เติม สารเคอร์คิวมินให้กับตับ จะพบว่า

1.สารเคอร์คิวมิน จะช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับ ให้กลับมามีสุขภาพดี ไม่ให้เข้าสู่ภาวะของตับแข็ง ตามภาพประกอบได้

2. และรวมทั้ง การช่วยลดเอนไซม์ตับชนิดต่างๆ เช่น AST และ ALT ให้กลับมาปกติได้

ฉะนั้น คนที่ภาวะไขมันพอกตับ เช่น อ่อนเพลียง่าย คนอ้วน คนลงพุง คนชอบดื่มเหล้า เบียร์ คนชอบทานอาหารหวานๆ เครื่องดื่มหวานๆ และทานแป้ง เป็นต้น

สารเคอร์คิวมิน จึงเป็นสารอาหารที่มีฤทธิ์ทางยา ที่ช่วยปกป้องและช่วยรักษาตับ ไม่ให้เกิดการเจ็บป่วย และนำไปสู่โรคตับชนิดต่างๆ

ดูแลตับ ตั้งแต่วันนี้ ดีกว่าปล่อยเซลล์ตับให้เข้าสู่ระยะที่ไม่สามารถฟื้นฟูและย้อนวัยตับให้กลับมาแข็งแรง ด้วยสารเคอร์คิวมิน

หากจะให้จัดอันดับสมุนไพรที่ได้รับการยอมรับในเรื่องสุดยอดสรรพคุณ จะต้องมีชื่อ “ขมิ้นชัน” ติดอันดับอยู่ด้วยแน่นอน ขมิ้นชัน คือ พืชที่ถูกนำมาใช้รับประทานเป็นอาหาร และใช้เป็นยา และในขมิ้นชันยังมี “เคอร์คูมินอยด์” ที่มีสรรพคุณครอบจักรวาล จนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นสมุนไพรมหัศจรรย์อีกด้วย

ขมิ้นชัน สุดยอดมหัศจรรย์สมุนไพร

ขมิ้นชัน (Turmeric) เป็นพืชที่ปลูกมากในแถบเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รูปแบบที่นิยมนำมาใช้ในทางยา มีอยู่ 2 รูปแบบ คือ

1. น้ำมันหอมระเหย (essential oil)
2. สารเคอร์คิวมินอยด์ (curcuminoids)

ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรที่มีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างหลากหลาย ถูกนำมาใช้รักษาโรคต่าง ๆ ตามแพทย์แผนโบราณมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นรักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม ช่วยสมานแผล ลดอาการจากโรคผิวหนัง รวมไปถึงสรรพคุณที่หลายคนคาดไม่ถึง คือ คุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ และ ลดการอักเสบได้อย่างดีเยี่ยม

ประโยชน์ “เคอร์คูมินอยด์” ในขมิ้นชัน

สารที่พบมากจากเหง้าของขมิ้นชัน คือ สารเคอร์คิวมินอยด์ (curcuminoids) เป็นสารสีเหลืองส้ม ซึ่งแต่ละพื้นที่ที่ปลูกขมิ้นชันจะมีปริมาณสารเคอร์คิวมินอยด์แตกต่างกัน

สารเคอร์คูมินอยด์ มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี พบว่าเคอร์คูมินอยด์มีฤทธิ์แก้อาการท้องอืด จุกเสียดแน่นท้อง มีคุณสมบัติในการรักษาแผล แก้อาการคัน และ แผลผุผอง ป้องกันการเกิดมะเร็ง มีฤทธิ์ในการลดระดับคอเลสเตอรอล มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อรา และ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ (Cousins, 2007)

– ต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant activity)

เคอร์คูมินอยด์ในขมิ้นชัน ช่วยลดภาวะที่ร่างกายมีอนุมูลอิสระมากเกินไป และยังช่วยเพิ่มเอนไซม์ที่ใช้ในการต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย จึงช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคต่าง ๆ  เช่น โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน จากอนุมูลอิสระได้

– ต้านการอักเสบ (anti–inflammatory activity)

สารเคอร์คิวมินจากขมิ้นชันช่วยต้านการอักเสบ และยับยั้งเอนไซม์ที่ทำให้เกิดการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการปวด มีงานวิจัยหลายเรื่องที่ได้ศึกษาฤทธิ์ต้านการอักเสบของขมิ้นชัน พบว่า สามารถแสดงฤทธิ์ลดการอักเสบได้

– ฤทธิ์ต้านมะเร็ง (anti–cancer activity)

 มีการศึกษาฤทธิ์ต้านมะเร็งของสารเคอร์คิวมินอยด์ พบว่าสารเคอร์คิวมินอยด์แสดงฤทธิ์ในการยับยั้งการเกิดมะเร็ง นอกจากนี้ยังมีการทดสอบเคอร์คิวมินกับผู้ป่วยในกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง พบว่าการรับประทานเคอร์คิวมินไม่เกิดพิษต่อผู้ป่วย และยังส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น

 – ฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ (antimicrobial activity)

มีการศึกษาพบว่า เมื่อใช้สารเคอร์คิวมินร่วมกับการใช้ยาแผนปัจจุบัน จะช่วยเสริมฤทธิ์ในการต้านเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดอาการโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

– ชะลอโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease)

สารเคอร์คูมินอยด์ ในขมิ้นชันช่วยต้านการสร้าง Beta-amyloid ในสมอง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคสมองเสื่อม อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Acetylcholinesterase ซึ่งช่วยคงระดับสาร Acetylcholine ในสมองไม่ให้ถูกทำลาย อีกทั้งฤทธิ์ในการต้านการอักเสบของขมิ้นชัน ยังมีส่วนช่วยในการชะลอโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย

ดูแลตับ ตั้งแต่วันนี้ เพราะว่า ในทุกๆวัน ตับจะถูกทำลายด้วยสารพิษมากมาย ปล่อยไว้นาน อาจสายเกินไปที่จะฟื้นฟูตับ

แชร์สูตรลดอาการอักเสบด้วยอาหารแบบง่ายๆ

ทำเองได้ไม่ยาก เป็นสูตรน้ำปั่นขมิ้นที่ทานไม่ยากไม่เผ็ดร้อนจนเกินไป แต่แก้อาการท้องอืดและลดอาการอักเสบได้ดีทีเดียว

ส่วนผสม

• น้ำมะพร้าว 2 ถ้วยตวง
• ขมิ้นสดบดละเอียด 2 ช้อนชา หรือ ขมิ้นผง ½ ช้อนชา
• ขิงสดบดละเอียด 2 ช้อนชา
• ส้มหรือมะนาว 1 ลูก
• แครอท ½ ลูก
• น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
• น้ำแข็งนิดหน่อย

วิธีทำ

นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในเครื่องปั่นจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน